【รีวิว】The Lightning Thief

หนังสือ “The Lightning Thief”
นวนิยายชุด Percy Jackson and the Olympians เล่ม 1
ผู้เขียน : ริก ไรออร์แดน (Rick Riordan)

         The Lightning Thief เป็นนิยายเล่มแรกในชุดเพอร์ซีย์ แจ็กสัน (ซึ่งจะตามมาอีกหลายเล่มมาก ๆ)  นิยายชุดนี้เป็นนิยายที่ไม่เหมือนใคร เพราะมีเนื้อหาเกี่ยวกับตำนานเทพเจ้ากรีก!  เพื่อน ๆ คนไหนเบื่อนิยายแฟนตาซีแนวพ่อมดแม่มดแล้วละก็ ลองเปลี่ยนมาอ่านแนวนี้บ้างก็ได้นะ  เพอร์ซีย์ พระเอกของเรา เป็นลูกครึ่งเทพครึ่งมนุษย์ ทำให้มีพลังพิเศษต่างจากเด็กคนอื่น ๆ รวมถึงมีชีวิตที่เสี่ยงอันตรายมากกว่าเด็กคนอื่น ๆ ด้วย  การเป็นลูกเทพ (ไม่ใช่ตุ๊กตาแต่อย่างใด) คือแกนหลักของเรื่องนี้ที่จะทำให้พระเอกของเราได้ไปผจญภัย ณ ที่ต่าง ๆ มากมาย  ไม่อยากพูดเยอะ เดี๋ยวเพื่อน ๆ จะหาว่าสปอยล์ อิอิ  เอาเป็นว่า หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่สนุก แถมได้ความรู้เรื่องเทพเจ้ากรีกอีกด้วย ว้าว ๆ ๆ

【รีวิว】The Other Side of The World จากทุกมุมโลก

หนังสือ “The Other Side of The World จากทุกมุมโลก”
ผู้เขียน : มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล

         หนังสือ “The Other Side of The World จากทุกมุมโลก” เป็นหนังสือบันทึกการเดินทางไปต่างประเทศและในประเทศของคุณโดนัท มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล นักแสดงชื่อดังที่หลายคนคงคุ้นหน้าคุ้นตากันดี  ผมหยิบหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาอ่านก็เพราะว่าผู้เขียนคือคุณโดนัทนี่แหละ  หลังจากเห็นคุณโดนัทในวงการบันเทิงมานาน  ผมเกิดอยากรู้ว่าสำนวนการเขียนของนักแสดงคนนี้จะเป็นยังไง

         หนังสือเล่มนี้พาผมออกเดินทางไปที่ต่าง ๆ มากมาย  เริ่มต้นที่นิวยอร์ก เมืองที่ผมใฝ่ฝันอยากไปเหยียบสักครั้ง  ผมพลิกหน้ากระดาษอย่างรวดเร็วเพราะไม่มีส่วนไหนของหนังสือเล่มนี้ที่น่าเบื่อเลย  นอกจากประสบการณ์การท่องเที่ยวที่น่าสนใจแล้ว ผู้เขียนยังบอกรายละเอียดของสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ไว้ในเราตามรอยได้ด้วย  หากเพื่อน ๆ คนไหนกำลังตามหาหนังสือท่องเที่ยวสไตล์เล่าเรื่องอยู่ล่ะก็ อย่าลืมเล่มนี้นะครับ :)

【รีวิว】4 ปี นรกในเขมร

หนังสือ "4 ปี นรกในเขมร" (カンボジアわが愛―生と死の1500日)
ผู้เขียน : ยาสึโกะ นะอิโต (内藤泰子)
ผู้แปล : ผุสดี นาวาวิจิต

         การเรียนอารยธรรมเอเชียตะวันออกที่คณะอักษรศาสตร์ ทำให้ผมได้มาเจอกับหนังสือเล่มนี้...

         4 ปี นรกในเขมร เป็นบันทึกเรื่องราวการระหกระเหินในดินแดนเขมร ซึ่งในขณะนั้นเต็มไปด้วยความรุนแรง  คุณยาสึโกะ (ผู้เขียน) เกิดในตระกูลซามูไร แต่งงานกับนักการทูตชาวกัมพูชา มีบุตรด้วยกันสองคน เรียกได้ว่าเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์แบบเลยทีเดียว แต่แล้ว วันหนึ่ง เมื่อกองทัพเขมรแดงเรืองอำนาจ ชะตากรรมของครอบครัวนี้ (รวมถึงขะตากรรมของชาวเขมรทั้งประเทศ) ก็ต้องเปลี่ยนไปตลอดกาล  ผู้เขียนต้องเร่ร่อนไปที่ต่าง ๆ มากมาย ต้องนอนกลางดิน กินกลางทราย และที่น่าเจ็บปวดที่สุดก็คือ ผู้เขียนต้องสูญเสียคนที่ตนเองรักไปทีละคน ๆ ต่อหน้าต่อตา

         หนังสือเล่มนี้ทำให้ผมสะเทือนใจเป็นอย่างมาก  ไม่อยากเชื่อว่า มนุษย์จะโหดร้ายต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกันถึงปานนี้  ประวัติศาสตร์คือเครื่องเตือนใจที่คอยย้ำเตือนให้มนุษย์ทุกคนไม่ก้าวไปสู่ความผิดพลาดเช่นนี้อีก

【รีวิว】โซลซอกแซก

หนังสือ “โซลซอกแซก”
ผู้เขียน : เมย์โย

         โซลซอกแซก เป็นบันทึกการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศเกาหลีใต้ของคุณเมย์โย  ผู้เขียนได้นำผมไปรู้จักแง่มุมต่าง ๆ ของมหานครอันมีเสน่ห์ที่ชื่อว่า "โซล"  ส่วนที่ผมชอบมากที่สุดในหนังสือเล่มนี้น่าจะเป็นการแนะนำของกิน ซึ่งมีการบอกพิกัดของร้านนั้น ๆ โดยละเอียด  ทำให้ผมอยากตามรอยไปกินถึงกรุงโซลเลย

【รีวิว】สองเงาในเกาหลี

หนังสือ “สองเงาในเกาหลี”
ผู้เขียน : ทรงกลด บางยี่ขัน

         ช่วงนี้ผมกำลังบ้าอะไรที่เป็น "เกาหลี" แล้วหนังสือเล่มนี้ก็เข้ามาซ้ำเติมให้ผมยิ่งบ้าเข้าไปใหญ่...

         "สองเงาในเกาหลี" เป็นเรื่องราวของชายหญิงคู่หนึ่ง (จะเรียกว่าเป็นคู่ก็ไม่ถูกนัก เอ๊ะยังไง) ที่บังเอิญมาพบกันที่ประเทศเกาหลี  ทั้งสองไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่ละฝ่ายเป็นใคร ทำงานอะไรก็ไม่รู้ แต่กลับตัดสินใจออกเดินทางท่องเที่ยวไปด้วยกัน  เกิดเป็นความสัมพันธ์แบบประหลาด ๆ ขึ้นมา  จะว่าเป็นเพื่อนกันก็ไม่ใช่ จะว่าเป็นคนแปลกหน้าก็ไม่เชิง

         การเข้ามาของ "เพื่อนร่วมทาง" ทำให้หนังสือเล่มนี้ไม่ใช่หนังสือท่องเที่ยวธรรมดา ๆ ทั่วไป  ผมว่าผู้เขียนให้ความสัมพันธ์กับการเดินทางในเกาหลีเป็นอันดับสองด้วยซ้ำ  การที่คน ๆ หนึ่งได้เจอคนแปลกหน้า แล้วได้เดินทางด้วยกัน ผมว่าเป็นความมหัศจรรย์ (จนน่าประหลาด555)  การมีคนเคียงข้าง อาจทำให้การเดินทางธรรมดา ๆ กลายเป็นการเดินทางที่มีเสน่ห์ได้

【รีวิว】วีซ่าฮาสาด

หนังสือ “วีซ่าฮาสาด”
ผู้เขียน : ต๋งคิวท์

         หนังสือ ฺ"วีซ่าฮาสาด" เป็นหนังสือที่ผมคุ้น ๆ ว่าเคยอยากอ่านเมื่อนานนนนมาแล้ว แต่โชคชะตาทำให้ผมได้มาอ่านในปี 2561 นี้  หากใครกำลังสงสัยว่าเจ้าหน้าที่สถานทูต (แผนกวีซ่า) ทำงานกันอย่างไร หนังสือเล่มนี้มีคำตอบ!  ด้วยฝีปากที่คมคายของผู้เขียน ทำให้หนังสือเล่มนี้ไม่น่าเบื่อเลย  ประกอบกับมุก (ที่ 99% เป็นเรื่องใต้สะดือ) ทำให้หนังสือเล่มนี้มีสีสันเป็นอย่างมาก  เรื่องที่ผู้เขียนนำมาเล่าก็เป็นเรื่องแบบวนในสุด ๆ  เรียกได้ว่าถ้าไม่ทำงานสถานทูตก็อาจจะไม่มีวันได้รู้ อิอิ  นอกจากนั้น ผู้เขียนยังแอบบอกเคล็ดลับการขอวีซ่าอย่างไรให้ผ่านอีกด้วย ว้าวว

【รีวิว】MADE IN THAILAND 2

หนังสือ “MADE IN THAILAND 2”
ผู้เขียน : นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์

         หนังสือเล่มนี้เป็นหนึ่งในหนังสือไม่กี่เล่มที่ทำให้ผมฮาได้ตลอด5555  ลีลาการเล่าเรื่องของคุณเต่อทำให้ผมหัวเราะจนเกือบเป็นบ้า  สิ่งที่ผมชอบในหนังสือเล่มนี้ คือ การใส่ลิงก์เกี่ยวกับเรื่องที่เล่า ทำให้ผู้อ่านสามารถติดตามต่อได้  ทำให้ผมได้รู้จักเรื่องตลก ๆ มากมายในสังคมไทยที่ผมไม่เคยรู้มาก่อน (พลาดไปได้ไงเนี่ย!!)  หนังสือเล่มนี้ทำให้ผมตระหนักถึงศักยภาพ (ด้านความฮา) ที่ประเทศไทยมี  ถ้าความฮาสามารถเปลี่ยนเป็นไงได้ละก็ ประเทศเราคงรวยที่สุดในโลก 555555

คำคม (?) จากหนังสือ "MADE IN THAILAND 2"

มลพิษจะหมดไป รถตั้งแต่หกล้อ ยกท่อไอเสียขึ้นบน
- ผู้ลงสมัครผู้ว่าฯกทม.ท่านหนึ่ง, หน้า 85 -

ช่วงหลังไปรษณีย์ไทยของเราท็อปฟอร์มมากครับ
ทุ่มเท (หมายถึง ทั้งทุ่มและเท)
สร้างผลงานกันออกมาอย่างต่อเนื่อง
จนสามารถเป็นสไตล์การส่งไปรษณีย์ที่ไม่เหมือนใครในโลกได้แล้ว
- หน้า 218 -

【รีวิว】The Ballad of Korea หนุ่มดอกไม้ กับ สาวกิมจิ

หนังสือ “The Ballad of Korea หนุ่มดอกไม้ กับ สาวกิมจิ”
ผู้เขียน : อัญชลี ชัยวรพร

         ช่วงนี้ผมกำลังบ้าอะไรที่เป็นเกาหลี ๆ  ผมจึงเลือกหนังสือเล่มนี้มาอ่าน...

         หนังสือเล่มนี้เป็นบันทึกการเดินทางไปทำวิจัยที่ประเทศเกาหลีใต้ของคุณอัญชลี ชัยวรพร  เกาหลีที่คุณอัญชลีเขียนถึงในหนังสือเล่มนี้เป็นเกาหลีเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว  หนังสือเล่มนี้จึงทำให้ผมได้รู้จักกับ "เกาหลี" ในอีกรูปแบบหนึ่งที่มีทั้งส่วนที่เหมือนและไม่เหมือน "เกาหลี" ในปัจจุบัน  ผู้เขียนได้เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับเกาหลีในหลาย ๆ แง่มุมที่ผมยังไม่เคยรู้มาก่อน  ทำให้ผมรู้จักประเทศนี้มากขึ้น  ผู้อ่านที่ไม่ได้เป็นแฟนหนังเกาหลีตัวยง อาจมึนกับชื่อนักแสดงและผู้กำกับมากมายที่ผู้เขียนได้กล่าวถึง แต่การไม่รู้จักชื่อเหล่านั้นก็ไม่ได้ทำให้อรรถรสของหนังสือเล่มนี้ลดน้อยลงแต่ประการใด  ในทางกลับกัน หนังสือเล่มนี้อาจทำให้คุณอยากหาหนังเกาหลีเก่า ๆ เหล่านั้นมาดูก็ได้ :D

คำคมจากหนังสือ "The Ballad of Korea หนุ่มดอกไม้ กับ สาวกิมจิ"

ท้ายที่สุดแล้ว
สิ่งที่สำคัญมากที่สุดในชีวิตก็คือ
ความเป็นคน
- หน้า 107 -

ถ้าจะบอกว่าได้อะไรจากมหาวิทยาลัย
ฉันกลับคิดว่าไม่ใช่ใบเบิกทางเหล่านั้น
แต่ความเป็นคนนี่ต่างหาก
ที่ฉันคิดว่าเป็นมหาวิทยาลัยชีวิตอย่างแท้จริง
- หน้า 107 -

【รีวิว】กัมพูชาพริบตาเดียว

หนังสือ “กัมพูชาพริบตาเดียว”
ผู้เขียน : นิ้วกลม

         หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือของคุณเอ๋ นิ้วกลม เล่มที่ 2 ที่ผมอ่าน (เล่มแรกคือ ลอนดอนไดอารี่)  แรงบันดาลใจในการอ่านหนังสือของคุณเอ๋เกิดจากการทำข้อสอบกลางภาควิชา "การใช้ภาษาไทย" ที่คณะอักษรศาสตร์  ในข้อสอบการย่อความ ผมได้อ่านบทความ "วัฒนธรรมรูปด้าน" จากหนังสือ "ตรวจภายใน" ที่คุณเอ๋เขียน  ผมรู้สึกถูกใจแนวคิดและวาทศิลป์ของนักเขียนท่านนี้ จึงตามหาหนังสือเล่มอื่น ๆ อ่านเพิ่มเติม

         เข้าเรื่อง ๆ 555+  หนังสือ "กัมพูชาพริบตาเดียว" เล่มนี้เป็นหนังสือที่ผมอ่านจบเร็วมาก  เรียกได้ว่าใช้เวลาอ่านเพียง "พริบตาเดียว" เหมือนชื่อเรื่อง  ผู้เขียนเล่าเรื่องการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศกัมพูชาได้สนุกมาก  ที่ผมประทับใจเป็นพิเศษคือการให้ข้อคิดเล็ก ๆ น้อย ๆ ในแต่ละบท  ไม่อยากจะเชื่อว่าเรื่องบางเรื่องที่เรามองว่าเป็นเรื่องธรรมดา ผู้เขียนสามารถนำเรื่องราวดังกล่าวมาตีความให้ลึกซึ้งขึ้นไปอีก  การอ่านหนังสือเล่มนี้ทำให้ผมได้มุมมองใหม่ ๆ มากมาย  ทำให้ผมได้เห็นแง่มุมใหม่ ๆ ของชีวิต  ทำให้ผมได้ตระหนักว่าในชีวิตคนเราที่แสนสั้นแค่ "พริบตาเดียว" เราควรจะทำอะไร และอะไรคือสิ่งสำคัญในชีวิต

คำคมจากหนังสือ "กัมพูชาพริบตาเดียว"

เวลาได้ออกไปเจอคนอื่น
เราจะไม่คิดถึงแต่ตัวเอง
- หน้า 193 -

เรามีเวลากันแค่
คนละพริบตาเดียว
- หน้า 227 -

【รีวิว】ใช้เงินอย่างไรให้มีเงินใช้ไปตลอดชีวิต

หนังสือ "ใช้เงินอย่างไรให้มีเงินใช้ไปตลอดชีวิต" (一生お金に困らない生き方)
ผู้เขียน : โคะโคะโระยะ จินโนะซุเกะ (心屋仁之助)
ผู้แปล : ทินภาส พาหะนิชย์

         หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือเกี่ยวกับการใช้เงินอีกเล่มหนึ่งที่มอบข้อคิดให้ผมมากมาย  ในบางครั้ง คนเราพยายามดิ้นรนกระเสือกกระสนหาเงิน บางคนทำงานหนักหาเช้ากินค่ำ แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมตัวเองถึงยังไม่มีเงินกับเขาเสียที  หนังสือเล่มนี้ได้ให้คำตอบนี้กับผม  ผู้เขียนได้กล่าวว่า ยิ่งเราโหยหา ไขว่คว้า อยากได้เงิน มากเท่าไหร่ เงินก็ยิ่งวิ่งหนีไปจากตัวเรามากเท่านั้น  ผู้เขียนแนะนำให้เราปรับทัศนคติที่มีต่อเงินให้เป็นทัศนคติที่สบาย ๆ เสมือนว่าตัวเราเป็นคนมีเงินอยู่แล้ว  ผู้อ่านบางคนอาจจะเถียงอยู่ในใจว่า ก็ฉันไม่มีเงิน จะให้ไปทำตัวแบบคนมีเงินได้อย่างไร  ผมคิดว่าสิ่งที่ผู้เขียนพยายามจะสื่อ ไม่ใช่การที่เราจะต้องไปใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายให้เหมือนกับว่าตัวเองมีเงิน เพียงแต่เราควรจะปรับความรู้สึกที่เรามีต่อเงินเท่านั้นเองครับ โดยเราไม่ควรไปเคร่งเครียดเรื่องเงินมากเกินไปเท่านั้นเอง เพียงเท่านี้ จิตใจของเราก็จะปลอดโปร่งขึ้น  ผมคิดว่าคนที่มีจิตใจปลอดโปร่งก็มักจะทำงานหาเงินได้มากนะครับ :)

คำคมจากหนังสือ "ใช้เงินอย่างไรให้มีเงินใช้ไปตลอดชีวิต"

พออยากได้เงิน เงินจะไม่เข้ามา
แต่พอไม่อยากได้หรือเฉย ๆ กับเงิน
เงินกลับเข้ามาหาเราเสียอย่างนั้น
- หน้า 38 -

【รีวิว】คำสารภาพ

หนังสือ "คำสารภาพ" (告白)
ผู้เขียน : มินะโตะ คะนะเอะ (湊かなえ)
ผู้แปล : กนกวรรณ เกตุชัยมาศ

         ตัวผมเองไม่เคยรู้จักหนังสือเล่มนี้มาก่อน ทั้ง ๆ ที่มันดัง (มากกกกก)  จากการลองค้นหาหนังสือน่าอ่านในพันทิป ทำให้ผมได้มารู้จักหนังสือเล่มนี้

         นวนิยายเรื่องคำสารภาพเป็นนวนิยายที่วางไม่ลงจริง ๆ  ผมใช้เวลาอ่านหนังสือเล่มนี้ไม่ถึง 2 วัน  ด้วยลีลาการเล่าเรื่องที่ไม่เหมือนใคร (จริง ๆ นะ)  ทำให้เรื่องราวดูสมจริงจนผมต้องคอยบอกตัวเองว่านี่คือเรื่องแต่ง ไม่ใช่เรื่องจริง!  พออ่านจบก็มีความรู้สึกโหวง ๆ อย่างบอกไม่ถูก  นวนิยายเรื่องนี้เล่นกับความเป็นสีเทา ๆ ของมนุษย์ได้ดี  ทุกตัวละครไม่มีใครดีหรือชั่ว 100% แต่ความเป็นสีเทา ๆ นี่แหละที่ทำให้ผมอ่านเรื่องนี้แล้วรู้สึกอึดอัด เพราะผมหา "คนดี" ในเรื่องนี้ไม่เจอเลย555+

【รีวิว】เคล็ดลับใช้ชีวิตอย่างมีสไตล์ที่ฉันได้เรียนรู้มาจากปารีส

หนังสือ "เคล็ดลับใช้ชีวิตอย่างมีสไตล์ที่ฉันได้เรียนรู้มาจากปารีส" (Lessons from Madame Chic)
ผู้เขียน : Jennifer L. Scott
ผู้แปล : อาสยา ฐกัดกุล

         ไม่ยากจะเชื่อเลย ว่าการไปใช้ชีวิตที่ ปารีส มหานครซึ่งอบอวลไปด้วยมนเสน่ห์ จะเปลี่ยนชีวิตคน ๆ หนึ่งไปได้มากขนานี้ และคน ๆ นั้นก็คือผู้เขียนหนังสือเล่มนี้นั่นเอง

         ตลอดการใช้ชีวิต 6 เดือนที่มหานครแห่งนี้ ผู้เขียนได้อาศัยร่วมชายคาเดียวกันกับ มาดามชิค  มาดามคนนี้เป็นหญิงชาวปารีสซึ่งมีทักษะการใช้ชีวิตที่น่าเอาเป็นเยี่ยงอย่างเป็นอย่างมาก  เธอใช้ชีวิตได้อย่างพรั่งพร้อมในทุก ๆ ด้าน  ทุก ๆ มุมของชีวิตเธอและครอบครัวช่างมีเสน่ห์  ผู้เขียนได้ถ่ายทอดแนวทางการใช้ชีวิตที่เธอสังเกตเห็นจากการใช้ชีวิตกับมาดามชิคทุก ๆ วันลงมาในหนังสือเล่มนี้  ทำให้ผู้อ่านอย่างผม ได้รู้จักมาดามชิคไปกับเธอด้วย

         หนังสือเล่มนี้ได้เปิดมุมมอง และมอบแนวคิดดี ๆ ให้กับผมมากมาย  คนเราไม่ควรใช้ชีวิตให้ผ่านไปวัน ๆ แต่เราควรใช้ชีวิตทุกวัน ทุกวินาที ให้เต็มไปด้วยมนตร์เสน่ห์ แล้วคุณจะพบว่า บางสิ่งที่คุณเคยมองว่ามันเป็นสิ่งธรรมดา ๆ มันอาจกลายเป็นสิ่งมีค่า เพียงแค่เราใส่หัวใจลงไปในทุกการกระทำ

คำคมจากหนังสือ "เคล็ดลับใช้ชีวิตอย่างมีสไตล์ที่ฉันได้เรียนรู้มาจากปารีส"

การกินจุบจิบเป็นขั้วตรงข้ามกับความเก๋
และถ้าคุณอยู่ในปารีส
มันก็เป็นเรื่องที่ไม่ควรทำอย่างยิ่งเลย
- หน้า 28 -

คุณไม่ควรกีดกันจากการกินอย่างมีความสุขเต็มที่
ไม่ใช้แค่เพื่อบำรุงร่างกาย
แต่เพื่อบำรุงจิตใจของคุณด้วย
- หน้า 40 -

การทำสองสิ่งพร้อมกัน
เท่ากับไม่ได้ทำอะไรเลยสักอย่าง
- พูบลิเลียส ไซรัส, หน้า 42 -

ไม่มีช่วงเวลาไหนเล็กน้อยเกินไปสำหรับการมีชีวิตที่ดี
- หน้า 47 -

อย่าขี้เกียจเด็ดขาด!
ความขี้เกียจมันไม่เก๋หรอกนะ
- หน้า 66 -

ถ้าคุณพยายามเลือกกินอาหารที่ดีที่สุด
คุณก็ควรพิถีพิถันในเรื่องเสื้อผ้าด้วย
- หน้า 92 -

ถ้าคุณรู้จักตัวเองดีพอและฟังเสียงที่อยู่ในใจ
คุณก็จะเริ่มเข้าใจความงามตามแบบฉบับของตัวคุณเอง
- หน้า 99 -

จงเป็นตัวของตัวเองอย่างเต็มที่
เพราะไม่มีอะไรจะมีเสน่ห์ไปกว่านี้อีกแล้ว
- หน้า 135 -

ประโยชน์ที่ได้รับจากการซึมซับศิลปะ
น่าจะเป็นหนึ่งในบทเรียนสำคัญที่สุดที่ฉันได้เรียนรู้
จากการไปใช้ชีวิตที่ปารีส
เพราะมันคือแง่มุมชีวิตที่นำความสุขมากมายมาให้ฉัน
- หน้า 245 -

คนฉลาดพูดน้อย
- หน้า 251 -

เสน่ห์อย่างหนึ่งของคนที่ดูลึกลับน่าค้นหา
คือพวกเขาดูพึงพอใจกับชีวิตของตนเองเสมอ
- หน้า 260 -

ความสุขไม่ใช่การมีในสิ่งที่ต้องการ
แต่คือความต้องการในสิ่งที่มีอยู่
- หน้า 297 -

ถ้าคุณใช้ชีวิตให้ช้าลงสักหน่อย
และมีความสุขไปกับสิ่งเรียบง่าย
มันจะนำไปสู่ชีวิตที่น่าพึงพอใจและมีสมดุล
- หน้า 321 -

สิ่งเดียวที่ฉันปรารถนาสำหรับลูกทั้งสองคน
ก็คือการใช้ชีวิตที่เปี่ยมไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก
พวกเธอจะทำอะไรไม่สำคัญ
สิ่งสำคัญที่ทำมันอย่างไรต่างหาก
- หน้า 349 -

【รีวิว】หล่อสร้างได้สไตล์เกาหลี

หนังสือ "หล่อสร้างได้สไตล์เกาหลี" (환타스틱 코스메틱 포맨)
ผู้เขียน : คิมมีกยอง (김미경)
ผู้แปล : อภิศรี

         หนังสือ หล่อสร้างได้สไตล์เกาหลี เป็นหนังสือพัฒนาตนเองฉบับการ์ตูนที่อ่านแล้วสนุกมากครับ  นอกจากความรู้เรื่องเคล็ดลับการดูแลตนเองในทุก ๆ ด้านของผู้ชายเกาหลีแล้ว ผู้อ่านยังได้ความสนุกจากการเฝ้าดูการเปลี่ยนแปลงทีละน้อย ๆ ของตัวเอกในเรื่องอีกด้วย  ในตอนแรก ตัวเองของเรื่องยังเป็นเด็กหนุ่มปอน ๆ ธรรมดาที่รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนไม่ได้เรื่อง แต่หลังจากตกหลุมรักผู้หญิงคนหนึ่ง เขาก็มีแรงฮึดในการพัฒนาตนเองจนกลายเป็นผู้ชายที่ดูดีได้

         หนังสือเล่มนี้ได้สอนให้ผมรู้ว่า ถ้าตัวเอกในเรื่องสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ ไม่ว่าใครก็สามารถทำได้ครับ :)  การเปลี่ยนแปลงตนเองนั้นไม่ยาก และอาจไม่ต้องใช้เงินมากมายแบบที่หลาย ๆ คนคิด  บางทีการเริ่มเปลี่ยนแปลงตนเองด้วยการเปลี่ยน "แนวคิด" อาจจะทำให้ชีวิตของคุณเปลี่ยนไปจนแทบจำไม่ได้!

【รีวิว】窓ぎわのトットちゃん (โต๊ะโตะจัง เด็กหญิงข้างหน้าต่าง)

หนังสือ『窓ぎわのトットちゃん』(โต๊ะโตะจัง เด็กหญิงข้างหน้าต่าง)

ผู้เขียน : คุโรยานางิ เท็ตสึโกะ (黒柳徹子)

         โต๊ะโตะจัง เด็กหญิงข้างหน้าต่าง เป็นนวนิยายภาษาญี่ปุ่นเล่มที่ 2 ที่ผมอ่านจบ  นวนิยายเล่มนี้เป็นนวนิยายที่ผมเคยอ่านตอนมัธยมต้นมาแล้วครั้งหนึ่ง (ตอนนี้ผมอ่านเป็นภาษาไทย)  ตัวผมในตอนนั้นรู้สึกว่านวนิยายเรื่องนี้สนุกมาก  การได้กลับมาอ่านโต๊ะโตะจังอีกครั้ง ในแบบฉบับภาษาญี่ปุ่น ซึ่งเป็นข้อความที่ผู้เขียนเลือกสรรมาโดยแท้ ไม่ต้องผ่านการแปล ทำให้ผมยิ่งรู้สึกประทับใจในหนังสือเล่มนี้

         คุณคุโรยานางิ เท็ตสึโกะ (ผู้เขียน) ได้เล่าเรื่องราวชีวิตในวัยเด็กของเธอที่โรงเรียนโทโมเอ  โรงเรียนโทโมเอเป็นโรงเรียนที่ไม่เหมือนใคร และผมคิดว่าจะไม่มีโรงเรียนไหนเหมือน  นอกจากโรงเรียนเล็ก ๆ แห่งนี้จะสอนให้เด็กทุกคนเคารพผู้อื่น โรงเรียนแห่งนี้ยังสอนให้เด็กเคารพตนเอง  คุณครูโคบายาชิ ครูใหญ่ของโรงเรียนแห่งนี้ได้มอบของขวัญอันล้ำค่าให้เด็ก ๆ ทุกคน ของขวัญชิ้นนั้นคือการเห็นคุณค่าในตนเอง

คำคมจากหนังสือ『窓ぎわのトットちゃん』

文字と言葉に頼りすぎた現代の教育は、

子どもたちに、

自然を心で身、

神のささやきを聞き、

霊感に触れるというような、

官能を衰退させたのではなかろうか？

- 小林宗作, หน้า 136 -

世に恐るべきものは、

目あれど美を知らず、

耳あれども楽を聴かず、

心あれども真を解せず、

感激せざれば、

燃えもせずの類である。

- 小林宗作, หน้า 137 -

ぼくのヴァイオリンで、
軍歌は、弾きたくない。

- 黒柳守綱, หน้า 304 -

【รีวิว】ยิ่งหิวยิ่งอายุยืน

หนังสือ "ยิ่งหิวยิ่งอายุยืน" (空腹が「生き方」を教えてくれる)
ผู้เขียน : โยะชิโนะริ นะงุโมะ (南雲吉則)

         หนังสือเล่มนี้เป็นหนึ่งในหนังสือสุขภาพที่ผมรู้สึกว่ามีแนวคิดที่แปลกใหม่ดีครับ  คุณหมอโยะชิโนะริได้เปลี่ยนมุมมองที่ผมมีต่อการดูแลสุขภาพครับ  บางทีสิ่งที่เราคิดว่าดีต่อสุขภาพ อาจจะไม่ได้ดีอย่างที่เราคิดก็ได้  ในทางกลับกัน บางสิ่งที่เราคิดว่าไม่ดี แท้จริงแล้วอาจจะเป็นสิ่งที่ดี เช่น การปล่อยให้ท้องหิว  บางคนมีความเชื่อที่ว่า การปล่อยให้ท้องหิวเป็นสิ่งที่ไม่ได้ แต่จริง ๆ แล้ว การปล่อยให้ร่างกายของเราหิวเสียบ้าง ก็อาจจะมีผลดีมากกว่าที่คุณคิด

         นอกจากแนวคิดเรื่องการปล่อยให้ท้องหิวแล้ว  ผมยังชอบแนวคิดการจัดการความเครียดที่คุณหมอได้สอนไว้ในหนังสือเล่มนี้  คนบางคนอาจจะจัดการความเครียดของตัวเองด้วยการไปหาอาหารอร่อย ๆ กิน ไปเที่ยว ไปออกกำลังกาย  คุณหมอบอกว่าการกระทำเหล่านั้นช่วยลดความเครียดได้ก็จริง แต่มันจะทำให้สมองของเราเสพติดความสุข  เมื่อสมองเสพติดความสุข เราจะเริ่มรู้สึกไม่มีความสุขกับวิถีชีวิตธรรมดาในแต่ละวัน  วิธีคลายความเครียดที่ได้ผลดี และไม่ทำให้สมองเสพติดความสุขที่คุณหมอแนะนำนั้นเป็นวิธีที่ง่ายมากเลยครับ  แค่เราจดจ่อในสิ่งที่กำลังทำอยู่ตอนนี้ก็เท่านั้นเองครับ  ถ้ากำลังเด็ดวัชพืชอยู่ก็ต้องเด็ดให้ไม่เหลือแม้แต่ต้นเดียวไปเลย หรือถ้ากำลังถูบ้านอยู่ก็ถูให้พื้นเงาวับไปเลย  เพียงเท่านี้คุณก็จะห่างไกลความเครียดแล้วครับ

คำคมจากหนังสือ "ยิ่งหิวยิ่งอายุยืน"

ทุกวันนี้อาหารเลิศหรูมื้อไหน
ก็ไม่อาจสู้อาหารรสมือแม่ที่ผมกินตอนเด็กได้
- หน้า 110 -

พอภายในบ้านสะอาด
จิตใจเราก็จะรู้สึกปลอดโปร่งและสดชื่น!
- หน้า 127 -

การจดจ่อกับงานที่อยู่ตรงหน้า

เป็นวิธีคลายเครียดที่ดีที่สุด

- หน้า 151 -

เราต้องไม่คิดเรื่องที่ผ่านไปแล้ว

และไม่กังวลกับเรื่องที่ยังไม่มาถึง

พูดง่าย ๆ ก็คือ

จดจ่ออยู่กับสิ่งที่ทำอยู่ในปัจจุบัน

โดยไม่ต้องคิดอะไรมาก

- หน้า 153 -

ทุกวันนี้ นอกจากเราจะต้องดำเนินชีวิตแบบ

"ไม่กินมากเกินไป"

"ไม่ทำให้ร่างกายอบอุ่น"

และ "ไม่ชำระล้างร่างกายมากเกินไป" แล้ว

เรายังต้อง "ไม่คิดมาก" อีกด้วยครับ

【รีวิว】The Horse and His Boy

หนังสือ “The Horse and His Boy”
นวนิยายชุด The Chronicles of Narnia เล่ม 3
ผู้เขียน : ซี. เอส. ลิวอิส (C. S. Lewis)

         หนังสือในชุดนาร์เนียเล่มนี้ นับว่าแตกต่างจากหนังสือเล่มอื่น ๆ ในชุด เพราะตัวละครหลักที่ทำหน้าที่ดำเนินเรื่อง เป็นผู้ที่อาศัยในโลกนาร์เนียครับ :)  เรื่องราวในเล่ม The Horse and His Boy หรือในชื่อภาษาไทยว่า อาชากับเด็กชาย เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงที่สี่พี่น้อง (ปีเตอร์, ซูซาน, เอ็ดมันด์ และลูซี่) กำลังครองราชย์เป็นราชาและราชินีแห่งนาร์เนีย  นั่นก็แปลว่าช่วงเวลาในเล่มนี้แทรกอยู่ในช่วงเวลาของเล่ม ตู้พิศวง ครับ

         เนื้อหาในเล่มนี้ก็สนุกดีครับ  เดินเรื่องไปเรื่อย ๆ ตามแบบฉบับของนาร์เนีย แต่ความตื่นเต้นในเล่มนี้ผมว่ายังไม่ค่อยสุดเท่าไหร่555  หากใครเป็นแฟนคลับของสี่พี่น้องละก็ รับรองอ่านแล้วฟินครับ เพราะในเล่มนี้คุณจะได้เจอกับสี่พี่น้องด้วย!

คำคมจากหนังสือ "The Horse and His Boy"

O my mistress,
do not by any means destroy yourself,
for if you live you may yet have good fortune
but all the dead are dead alike.
- Hwin, หน้า 38 -

【รีวิว】Dream Trip Dream Team in England หัวหกก้นขวิด อังกฤษในฝัน

หนังสือ "Dream Trip Dream Team in England หัวหกก้นขวิด อังกฤษในฝัน"
ผู้เขียน : ไอรีน บุญนิมิตรภักดี

         ตัวผมเองเป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือบันทึกการเดินทางมาก เพราะผมเป็นคนที่ชอบเดินทางท่องเที่ยวครับ  ผมเห็นหนังสือเล่มนี้อยู่บนชั้นหนังสือ พอเปิดดูผ่าน ๆ ก็พบว่าภาพสวยดี จึงเลือกที่จะอ่านหนังสือเล่มนี้

         หนังสือเล่มนี้เป็นบันทึกการเดินทางไปเรียนด้านศิลปะที่ประเทศอังกฤษของคุณไอรีนและเพื่อน ๆ อีก 3 คน  ถึงจะเขียนว่าไปเรียนแต่จริง ๆ แล้วน่าจะเรียกว่าไปเที่ยวมากกว่า 5555+  ตลอดทริป 5 สัปดาห์บนเกาะอังกฤษ  คุณไอรีนและผองเพื่อนได้ขึ้นเหนือล่องใต้ ไปเที่ยวเมืองต่าง ๆ มากมาย  ด้วยหนังสือเล่มนี้มีภาพประกอบที่สวย (มากกกกก) ทำให้ผมอ่านหนังสือเล่มนี้ได้อย่างไม่มีเบื่อ

         สิ่งที่ผมได้รับหลังอ่านจบก็คือประสบการณ์การไปเรียน+เที่ยวที่ประเทศอังกฤษ โดยที่ไม่ต้องออกเงินเอง555  สิ่งที่ผมชอบก็คือ ผู้เขียนไม่ได้เขียนเฉพาะประสบการณ์ที่สวยหรูอย่างเดียว ประสบการณ์ที่เรียกว่าเป็นความผิดพลาด (เช่น ตกรถไฟ) ผู้เขียนก็นำมาบอกเล่าให้ผู้อ่านได้รู้ด้วย  ซึ่งผมคิดว่าข้อมูลเหล่านี้เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง :)

【รีวิว】โตเกียวจิน ความสุขรายวันของคนคลานช้า

หนังสือ "โตเกียวจิน ความสุขรายวันของคนคลานช้า"
ผู้เขียน : สายฝน ทากาโอกะ

         ขึ้นชื่อว่ากรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น หลายคนคงจะนึกถึงวิถีชีวิตอันเร่งรีบ ผู้คนที่เดินสวนกันไปมา รถไฟสายต่าง ๆ ที่พันกันยุ่งเหยิง แต่คุณสายฝน ทากาโอกะ ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ จะนำผู้อ่านทุกท่านไปพบกับโตเกียวในมุมมองของคนคลานช้า โตเกียวในอีกมุมหนึ่ง ที่หลายต่อหลายคนยังไม่เคยรู้จัก

         ผมเองก็เป็นนักอ่านคนหนึ่งที่ชื่นชอบหนังสือสารคดีแนวนี้  ผนวกกับความชื่นชอบประเทศญี่ปุ่น  เพียงแค่เห็นชื่อเรื่อง ผมจึงหยิบหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาอ่านทันที  คุณสายฝนได้พาผมไปรู้จักกับโตเกียวในมุมมองที่ผมไม่เคยรู้จัก  หลายเรื่องเป็นความสุขเล็ก ๆ ที่ซ่อนเร้นอยู่ในมหานครที่กว้างใหญ่นี้  ภาษาที่คุณสายฝนใช้เขียนหนังสือเล่มนี้ล้วนงดงาม  อ่านแล้วสัมผัสได้ถึงความสุขที่คุณสายฝนต้องการถ่ายทอดมายังผู้อ่านทุก ๆ ท่าน  ต่อจากนี้ไป ทุกครั้งที่ผมเดินทางไปกรุงโตเกียว  มหานครแห่งนี้ในมุมมองของผมคงไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

【รีวิว】ชีวิตผมเปลี่ยนไป เมื่อได้เทพช้างมาเป็นกุนซือ

หนังสือ "ชีวิตผมเปลี่ยนไป เมื่อได้เทพช้างมาเป็นกุนซือ" (夢をかなえるゾウ)
หรือ "เทพช้างสอนคิด"

ผู้เขียน : มิซุโนะ เคยะ (水野敬也)

         หนังสือ ชีวิตผมเปลี่ยนไป เมื่อได้เทพช้างมาเป็นกุนซือ เป็นหนังสือจิตวิทยาพัฒนาตนเองที่เล่าเรื่องได้สนุก  เนื้อหาของหนังสือเล่มนี้เกี่ยวกับชายหนุ่มมนุษย์เงินเดือนธรรมดา ๆ คนหนึ่ง หรือที่ชาวญี่ปุ่นเรียกว่าซาลารี่มัง (サラリーマン) ซึ่งมีชีวิตประจำวันค่อนข้างน่าเบื่อ และมีแนวโน้มที่จะไม่ประสบความสำเร็จในอนาคต

         หลังจากการปรากฏตัวของเทพช้าง  ชายหนุ่มคนนี้ก็เริ่มพัฒนาตนเองขึ้นทีละนิด ๆ โดยการทำตามภารกิจที่เทพช้างให้ในแต่ละวัน  บางภารกิจอาจจะดูเหมือนไม่มีประโยชน์ (หืม?) แต่เทพช้างก็ยืนยันนั่งยันนอนยันว่า หากทำตามแล้ว จะประสบความสำเร็จจริง ๆ  สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่หาอ่านหนังสือเล่มนี้ไม่ได้ ผมได้รวบรวมภารกิจของเทพช้างมาไว้ด้านล่างนี้ เผื่อเพื่อน ๆ คนไหนสนใจนำไปปฏิบัติตามนะครับ

ภารกิจเทพช้าง

1. ขัดรองเท้า

2. บริจาคเงินทอนที่ร้านสะดวกซื้อ

3. กินอาหารให้อิ่มแค่ 80 เปอร์เซ็นต์

4. รู้ทันความต้องการของคนอื่น

5. ทำให้คนอื่นหัวเราะ

6. ทำความสะอาดห้องน้ำ

7. หลังเลิกงานให้ตรงดิ่งกลับบ้านทันที

8. ชมตัวเองที่พยายามได้ดีในวันนั้น

9. ใน 1 วันให้เลิกทำบางอย่าง

10. สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการลงมือทำให้ได้อย่างต่อเนื่อง

11. ใช้เวลาสำรวจความเรียบร้อยของตัวเองหน้ากระจกทุกเช้า

12. ถามคนอื่นว่าเราถนัดเรื่องอะไรมากที่สุด
13. ถามคนอื่นว่าเราไม่ถนัดเรื่องอะไร
14. จินตนาการความฝันอย่างสนุกสนาน
15. พูดว่าตัวเอง "โชคดี"
16. ขอให้คนอื่นทำบางอย่างให้ฟรี ๆ
17. เตรียมการล่วงหน้าสำหรับวันพรุ่งนี้
18. ทำให้คนใกล้ตัวที่สำคัญกับเราที่สุดมีความสุข
19. มองหาข้อดีของคนอื่นแล้วเอ่ยชม
20. เลียนแบบข้อดีของคนอื่น
21. ดูประกาศรับสมัครงาน
22. ไปขอพร
23. เข้าร้านอาหารและค้นหาสาเหตุที่ทำให้ร้านได้รับความนิยม
24. สร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการให้ของขวัญ

ภารกิจสุดท้าย
1. เริ่มทำสิ่งที่นึกเสียดายที่ยังไม่ได้ทำตั้งแต่วันนี้
2. บอกเล่าความฝันที่ช่วยทำให้คนอื่นมีความสุข
3. ช่วยให้คนอื่นประสบความสำเร็จ
4. ทำสิ่งที่ท้าทายความสามารถของตัวเอง
5. ขอบคุณทุกวัน

คำคมจากหนังสือ "ชีวิตผมเปลี่ยนไป เมื่อได้เทพช้างมาเป็นกุนซือ"

เวลาว่างคือช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด
เราจะประสบความสำเร็จในอนาคตหรือไม่
ขึ้นอยู่กับว่าเราใช้เวลาเหล่านั้นไปทำอะไร
- หน้า 87 -

มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่แปลก
พวกเขามันเอาใจใส่คนที่ไม่ได้มีความสำคัญกับตัวเอง
ในขณะที่คนที่พวกเขารักมากที่สุด
หรือคนที่สำคัญที่สุดสำหรับตัวเองอย่างพ่อแม่
พวกเขากลับไม่ค่อยใส่ใจ
- หน้า 172 -

จงเติมเต็มหัวใจของตัวเองที่ขาดหายไปด้วยการพูดคำว่าขอบคุณ
- หน้า 298 -

จงสนุกกับโลกใบนี้ตามที่ใจนายปรารถนา
- หน้า 305 -

【รีวิว】ความลับของเศษเหรียญ ใช้เงินก้อนเล็กดึงดูดเงินก้อนโต

หนังสือ "ความลับของเศษเหรียญ ใช้เงินก้อนเล็กดึงดูดเงินก้อนโต" (稼ぐ人はなぜ、1円玉を大事にするのか?)

ผู้เขียน : คะเมะดะ จุนอิชิโร (亀田潤一郎)

ผู้แปลและเรียบเรียง : บรรเจิด ชวลิตเรืองฤทธิ์

         หลังจากที่ได้อ่าน ชีวิตมั่งคั่งด้วยกระเป๋าสตางค์ใบเดียว ของผู้เขียนท่านนี้ ผมก็อยากอ่านหนังสือเล่มนี้ต่อทันที อาจจะเป็นเพราะติดใจในสำนวนการเขียนก็เป็นได้  หนังสือเล่มนี้ได้เปลี่ยนมุมมองที่เรามีต่อ เศษเหรียญ  สิ่งที่หลายต่อหลายคนอาจจะเคยมองว่าไม่มีค่า  ภายในเหรียญเล็ก ๆ กลม ๆ เหล่านี้ อาจจะมีความลับที่ยิ่งใหญ่ซ่อนอยู่

         คะเมะดะ จุนอิชิโร (ผู้เขียน) เคยมีประสบการณ์ทางการเงินที่เลวร้าย แต่ในความเลวร้ายนั้น ผู้เขียนก็ได้เรียนรู้อะไรหลาย ๆ อย่าง  เขาใช้ชีวิตการทำงานคลุกคลีเหล่าคนมีเงินมากหน้าหลายตา  ในบรรดาคนมีเงินเหล่านั้น มีบางสิ่งที่พวกเขามีเหมือนกัน นั่นคือ พวกเขาไม่เคยมองข้ามคุณค่าของเหรียญแม้แต่เพียงเยนเดียว

คำคมจากหนังสือ "ความลับของเศษเหรียญ ใช้เงินก้อนเล็กดึงดูดเงินก้อนโต"

ใช้เงินโดยใส่ "หัวใจ" ลงไปด้วย

- หน้า 92 -

เงินน่ะหรอ มีหล่นเกลื่อนอยู่ทุกที่นั่นแหละ

- หน้า 137 -

ผมอยากให้คุณตั้งเป้าเป็นคนที่หาเงินเก่ง

โดยพยายามหาอะไรบางอย่างที่แลกเปลี่ยนเป็นเงินได้ติดตัวไว้

เอาให้ถึงขั้นที่แม้รายได้จะเป็นศูนย์แต่คุณก็ยังอยู่ได้

- หน้า 158 -

ถ้าไม่อยากขัดสนเรื่องเงิน

เราก็ต้องเชื่อมั่นว่า

"ตัวเองมั่งคั่งอยู่ตลอด"

นี่คือสิ่งจำเป็นที่ขาดไม่ได้เลย

- หน้า 164 -

【รีวิว】Miracle Morning ทุกสิ่งในชีวิตจะดีขึ้น เมื่อตื่นเช้า

หนังสือ "Miracle Morning ทุกสิ่งในชีวิตจะดีขึ้น เมื่อตื่นเช้า"

ผู้เขียน : ฮัล เอลรอด (Hal Elrod)
ผู้แปลและเรียบเรียง : เสรี อู่ธาราสวัสดิ์

         กำลังอ่านจ้า

คำคมจากหนังสือ "Miracle Morning ทุกสิ่งในชีวิตจะดีขึ้น เมื่อตื่นเช้า"

ในการใช้ชีวิต
เรามีเพียง 2 ทางเท่านั้น
ทางแรกคือราบเรียบ ไม่มีปาฏิหาริย์ใด ๆ
อีกทางคือทุกสิ่งเต็มไปด้วยปาฏิหาริย์ทั้งสิ้น
- อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์, หน้า 12 -

เมื่อวิถีการตื่นนอนในตอนเช้าเปลี่ยนแปลง
ชีวิตคุณทั้งชีวิตก็จะเปลี่ยนแปลงไปด้วยเช่นกัน
- หน้า 36 -

จุดที่เรายืนอยู่ ณ เวลานี้
เป็นผลมาจากสิ่งที่คุณเป็นในอดีต
แต่จุดที่คุณกำลังจะเดินไป
ขึ้นอยู่กับตัวตนในแบบที่คุณอยากเป็น
นับจากตอนนี้เป็นต้นไป
- หน้า 62 -

งานวิจัยระบุว่า
ตัวตนเรานั้นจะเหมือนกับกลุ่มบุคคลโดยเฉลี่ย 5 คน
ที่เราใช้เวลาด้วยมากที่สุด
- หน้า 70 -

"ตอนนี้"
เป็นช่วงเวลาที่มีความสำคัญมากกว่าช่วงอื่น ๆ ของชีวิต
เพราะสิ่งที่คุณทำในวันนี้จะเป็นตัวกำหนดคนที่คุณจะกลายเป็นในอนาคต
และคนคนนั้นจะเป็นผู้กำหนดคุณภาพและทิศทางของชีวิตของคุณทั้งหมดด้วย
- หน้า 74 -

ความสำเร็จคือการได้รับแรงดึงดูด
จากคนในแบบที่คุณใฝ่ฝัน
- จิม โรห์น, หน้า 93 - 

【รีวิว】Forward the Foundation

หนังสือ "Forward the Foundation"

ผู้เขียน : Isaac Asimov

         หนังสือเล่มนี้ เป็นเล่มที่สองในชุด Foundation ที่ผมอ่าน  การดำเนินเรื่องในหนังสือเล่มนี้สนุกไม่แพ้เล่ม Prelude to Foundation เลย  เพียงแต่ช่วงเวลาในเล่มนี้จะยาวนานกว่า  เรียกได้ว่า หน้าแรกกับหน้าสุดท้ายของหนังสือเล่มนี้นี่ห่างกันหลายสิบปีอยู่

         หนังสือเล่มนี้มีช็อตที่ทำให้ผมเศร้าอยู่หลายช็อต  การสูญเสียในหนังสือเล่มนี้ นับว่ามากโขเลยทีเดียว  ไม่อยากพูดมากกว่านี้ เพราะว่าจะสปอยล์ช็อตสำคัญเนอะ555+

         หลังจากอ่านเล่มนี้จบ ผมก็ยิ่งมั่นใจว่าจะตามอ่านนวนิยายชุดนี้ไปจนจบทุกเล่ม  ทั้งสำนวนของผู้เขียน ทั้งการดำเนินเรื่อง ผมชอบหมดเลยครับ :)

คำคมจากหนังสือ "Forward the Foundation"

You don't need schooling to be a philosopher.
Just an active mind and experience with life.
- Hari Seldon, หน้า 111 -

【รีวิว】UK & Me เมื่อคิดให้ดีปลื้มนี้ประหลาด

หนังสือ "UK & Me เมื่อคิดให้ดีปลื้มนี้ประหลาด"

ผู้เขียน : ปลื้ม Skoii

         ตัวผมเองเป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือบันทึกการเดินทางอยู่แล้วครับ  ยิ่งเป็นหนังสือที่เล่าเรื่องแบบตลก ๆ จิก ๆ กัด ๆ นี่ผมยิ่งชอบ555  อ่านแล้วมันไม่ง่วง  ฮาด้วย  พอผมมาเจอเล่มนี้ก็เลยอ่านวันเดียวจบเลย  ผู้เขียน ซึ่งใช้นามปากกาว่า ปลิ้ม Skoii (ไม่รู้สก๊อยจริงเปล่า) เป็นคนที่เล่าเรื่องได้ตลกมากกก  ในความตลกก็มีความจิกกัด  นอกจากสกิลความตลกแล้ว ยังมีสกิลความแค้นอีกด้วย  บางบทนี่อุทิศให้คนเกาหลีที่อยู่บ้านเดียวกันไปหลายหน้ามาก  ไม่ใช่อุทิศในแง่ดีนะครับ  ด่าทั้งหน้าเลยครับ!  ด่าซะจนผมเข้าใจหัวอกคุณปลื้มเลยว่า อยู่ที่นั่นคงแค้นมากสินะ กระซิก ๆ TT

         กลับมาสู่สาระกันบ้าง  หนังสือเล่มนี้ได้มอบประสบการณ์หลายอย่างให้ผมครับ  ไม่ว่าจะเป็นทักษะการใช้ชีวิตในประเทศอังกฤษ, ความรู้ภาษาอังกฤษ, รวมถึงนิสัยของคนชาติต่าง ๆ  อิ_อิ  อันนี้เอ็กคลูซีฟมาก  ผู้อ่านจะได้รู้นิสัยของชาติต่าง ๆ แบบเจาะลึกกันเลยทีเดียว  โดยรวมหนังสือเล่มนี้ก็ได้มอบทั้งความสนุกเลยความรู้! เย่! ตัดจบแบบนี้เลยหรอ งงอะดิ

คำคมจากหนังสือ "UK & Me เมื่อคิดให้ดีปลื้มนี้ประหลาด"

จุดแรก คือ 'การพบ'
จุดจบ คือ 'การจาก'
มีพบ ต้อง 'มีพราก'
มีจาก ต้อง 'มีเจอ'
- หน้า 217 -

【รีวิว】君の名は。

หนังสือ「君の名は。」(Your Name)

ผู้เขียน : ชินไก มาโกโตะ (新海誠)

         จบไปแล้วครับ สำหรับนวนิยายภาษาญี่ปุ่นเรื่องแรกในชีวิตของผมที่ผมอ่านจนจบ!  ไม่คิดไม่ฝันเลยครับว่าจะมีวันนี้  พูดแล้วน้ำตาจะไหล ToT

         ผมเคยดูการ์ตูนเรื่อง 君の名は。(Your Name) มาตั้งแต่ปีพ.ศ. ๒๕๕๙ แล้วครับ  พอดูจบปุ๊บ ความรู้สึกที่ผุดขึ้นในใจคือ สนุกมากกกก  การ์ตูนเรื่องนี้ทำให้ผมมีแรงบันดาลใจที่จะกลับมาฟิตภาษาญี่ปุ่นอีกครั้ง!  ช่วงนั้นผมมัวแต่อ่านหนังสือสอบเข้ามหาวิทยาลัยจนไม่ค่อยได้แตะภาษาญี่ปุ่นเลยครับ แต่หลังจากสอบเสร็จผมก็กลับมาปัดฝุ่นภาษาญี่ปุ่นอีกครั้ง  ทักษะภาษาญี่ปุ่นของผมเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด  จนกระทั่งผมสามารถอ่านนวนิยายภาษาญี่ปุ่นได้ เย่!!!  ถึงแม้แอบอ่านฉบับแปลไทยเทียบก็เถอะ555

         สำหรับใครที่เคยดูฉบับการ์ตูนมาแล้ว  เนื้อหาในเรื่องก็แทบจะไม่ต่างกันเลยครับ  แต่พอเป็นฉบับนวนิยาย ผู้อ่านจะได้รู้ความคิดของตัวละครด้วย  ได้รู้ว่าในฉากนี้ ตัวละครนี้กำลังรู้สึก กำลังคิดอะไรอยู่  ซึ่งพอได้รู้แล้วก็ทำให้ความฟินเพิ่มขึ้นหลายระดับ  ถ้าเพื่อน ๆ คนไหนชื่นชอบการ์ตูนเรื่องนี้แล้วล่ะก็ อย่าลืมหานวนิยายเล่มนี้มาอ่านกันนะคร้าบบบบ

คำคมจากหนังสือ「君の名は。」

私は、
俺は、
だれかひとりを、ひとりだけを、探している。
- หน้า 8 -

私は恋をしている。
私たちは恋をしている。
だから私たちは、ぜったいにまた出逢う。
だから生きる。
- 宮水三葉, หน้า 229 -

【รีวิว】The Magic of Thinking Big

หนังสือ "The Magic of Thinking Big"

ผู้เขียน : David J. Schwartz

         reading

คำคมจากหนังสือ "The Magic of Thinking Big"

Believe, really believe,
you can move a mountain, and you can.
Not many people believe that they can move mountains.
So, as a result, not many people do.
- หน้า 9 -

When you believe I-can-do-it,
the how-to-do-it develops.
- หน้า 10 -

Think doubt and fail.
Think victory and succeed.
- หน้า 13 -

The size of your success is determined by the size of your belief.
- หน้า 21 -

Big ideas and big plans are often easier
than small ideas and small plans.
- หน้า 21 -

Action cures fear.
- หน้า 51 -

How big we think determines the size of our accomplishments.
- หน้า 76 -

To think big, we must use words and phrases
that produce big, positive mental images.
- หน้า 79 -

It isn't what one has that's important.
Rather, it's how much one is planning to get that counts.
- หน้า 88 -

Think big, and none of these little things can hold you back.
- หน้า 94 -

Top-level leaders in all walks of life
spend much more time requesting advice
than they do in giving it.
- หน้า 116 -

We learn nothing from telling.
But there is no limit to what we can learn by asking and listening.
- หน้า 118 -

Others see in us what we see in ourselves.
- หน้า 126 -

Pay twice as much and buy half as many.
- หน้า 131 -

Don't accept the judgement of average people.
You are not average.
- หน้า 144 -

It's better to have fewer things and have quality
than to have many things and have junk.
- หน้า 164 -

Recall the amusing, pleasant things you experienced
and let the unpleasant things stay buried.
- หน้า 175 -

You must feel important to succeed.
Helping others to feel important rewards you
because it makes you feel more important.
Try it and see.
- หน้า 181 -

Do something special for your family often.
It's doesn't have to be something expensive.
It's thoughtfulness that counts.
- หน้า 185 -

Put service first,
and money takes care of itself.
- หน้า 186 -

Nothing comes merely by thinking about it.
- John Wanamaker, หน้า 212 -

The test of a successful person is not an ability
to eliminate all problems before they arise,
but to meet and work out difficulties when they do arise.
- หน้า 216 -

You gain absolutely nothing
from "proving" that someone else is wrong.
- หน้า 244 -

Tell yourself,
"There IS a way."
- หน้า 248 -

A goal is more than a dream;
it's a dream being acted upon.
- หน้า 252 -

【รีวิว】Prelude to Foundation

หนังสือ "Prelude to Foundation"

ผู้เขียน : Isaac Asimov

         จบไปแล้ว สำหรับเล่มแรกในชุด Foundation series หรือในภาษาไทยคือ สถาบันสถาปนา  ความรู้สึกหลังอ่านจบ ขอบอกเลยว่า โคตรสนุกกกกกกกกกก!!!

         ผมรู้จักหนังสือชุดนี้มานานแล้วครับ  รู้จักจากกระทู้ในพันทิป  ตอนนั้นลองอ่านเรื่องย่อดูแล้วก็รู้สึกว่าสนุกดี แต่ก็ไม่ได้หามาอ่าน เพราะว่า หนังสือฉบับภาษาไทยหายากมาก  ผ่านมาหลายปี อยู่ดี ๆ ผมก็นึกขึ้นได้ว่าเคยอยากอ่านหนังสือชุดนี้  ไม่รู้ว่าอะไรดลใจ555  คราวนี้เลยตัดสินใจอ่านเป็นภาษาอังกฤษครับ เพราะที่ร้านคิโนะฯมีขายพอดี (เพื่อน ๆ คนไหนสนใจไปซื้อมาอ่านได้นะ อิอิ)  จากการอ่านความเห็นของแฟน ๆ ซีรีส์ชุดนี้ในพันทิปก็พบว่า ทุกคนชมเรื่องนี้เยอะมาก  พอได้มาอ่านเองก็พบว่าสนุกจริง ๆ ครับ  สนุกกว่าที่คิดไว้เยอะเลย  ยิ่งตอนหลัง ๆ นี่แบบ...  อย่าให้พูด! เดี๋ยวจะหาว่าสปอยล์  ไปหาอ่านเองดีกว่าครับ  ระหว่างอ่านก็งดอ่านเรื่องย่อใด ๆ ทั้งสิ้นนะครับ  เดี๋ยวจะไม่สนุก :)  ขอตัวไปหาซื้อเล่มสองอ่านต่อก่อนนะครับ บ๊ายบาย

คำคมจากหนังสือ "Prelude to Foundation"

I want you to try.
For the sake of those millions of worlds,
billions of cultures, and quadrillions of people.
Not for the Emperor. Not for Demerzel.
For humanity.
- Chetter Hummin, หน้า 67 -

Emotions, my dear Seldon,
are a powerful engine of human action,
far more powerful than human beings themselves realize
- R. Daneel Olivaw, หน้า 484 -

【รีวิว】Bon En Voyage แรดรอบโลก

หนังสือ “Bon En Voyage แรดรอบโลก”
ผู้เขียน : บองเต่า

         Bon En Voyage แรดรอบโลก เป็นผลงานเล่มที่สามของนักเขียนฝีปากแซ่บนามว่า "บองเต่า"  หนังสือเล่มนี้ได้พาเราไปเที่ยวหลายต่อหลายประเทศ  ไม่ว่าจะเป็น ฮ่องกง, ญี่ปุ่น, ฝรั่งเศส, บลา ๆ ๆ แต่ที่พีคสุด (และแรดสุด) ก็คือ โบราโบรา!  เชื่อว่าหลายคน (รวมทั้งตัวผม) เพิ่งมารู้จากหนังสือเล่มนี้นี่แหละว่ามันมีเกาะที่ชื่อว่าโบราโบราอยู่บนโลกใบนี้ด้วย  บองเต่าได้พาเราไปเที่ยวสถานที่ที่เราไม่รู้จัก  ด้วยสนนราคาค่าที่พักกินอยู่ของสถานที่เหล่านั้นก็ล้วนแล้วแต่ทำให้กระเป๋าสตางค์เราฉีกได้ทั้งนั้น  เรียกได้ว่า แค่ไปเที่ยวครั้งเดียว ก็อาจจะทำให้เราเป็นทาสทางการเงินได้  การอ่านหนังสือเล่มนี้จึงคุ้มอย่างยิ่ง เพราะ เราได้ประสบการณ์ไปเที่ยว (อาจจะไม่ 100% แต่ก็ใกล้เคียงแหละหน่า) โดยไม่เสียตังค์สักบาท!  อาจจะมีคนเถียงว่า ก็เสียค่าหนังสือไง  เปล๊า ไม่เสีย เพราะเรายืมมา แฮ่!

คำคมจากหนังสือ "Bon En Voyage แรดรอบโลก"

โชคชะตาจะเข้าข้างคนแรดเสมอ
- หน้า 38 -

การเดินทางคือการหล่อหลอมเราขึ้นมา
ทุกครั้งที่เราเดินทาง
เราจะกลับมาพร้อมกับความเปลี่ยนแปลงไม่มากก็น้อย
- หน้า 268 -

【รีวิว】ทิ้ง 1 ให้ได้ 100 ทิ้งน้อยให้ได้มาก

หนังสือ "ทิ้ง 1 ให้ได้ 100 ทิ้งน้อยให้ได้มาก" (千円札は拾うな。)

ผู้เขียน : โยะชิโอะ ยะซุดะ (安田佳生)

         ผมเชื่อว่าหลายต่อหลายคนพอได้อ่านเรื่องย่อที่ปกหลังแล้วอาจจะคิดอยู่ในใจว่า "มันจะเป็นไปได้ยังไง?!"  ผมเองก็ทบความสงสัยในใจไม่ไหว ก็เลยต้องหยิบหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาอ่านครับ555

         หนังสือเล่มนี้ได้มอบแนวถึงใหม่ ๆ มากมายให้แก่ผม (ส่วนใหญ่จะเป็นแนวคิดเชิงธุรกิจ)  บางทีแนวคิดเหล่านั้นอาจขัดแย้งกับสามัญสำนักของเรา ๆ อยู่บ้าง  ขอให้ทุกคนลองเปิดใจ แล้วคุณอาจจะทึ่งกับแนวคิดของผู้เขียนท่านนี้ก็ได้ครับ  โดยรวมแล้ว ผมได้ข้อคิดและคำคมดี ๆ มากมายจากหนังสือเล่ม (ถ้าไม่เชื่อก็ลองดูด้านล่าง)  หนังสือเล่มนี้ให้อะไร ๆ มากกว่าที่ผมคาดหวังในตอนแรกไว้เยอะครับ  ถ้าอยากเปิดมุมมองก็แนะนำให้อ่านครับ

คำคมจากหนังสือ "ทิ้ง 1 ให้ได้ 100 ทิ้งน้อยให้ได้มาก"

คุณจะสามารถพัฒนาตัวเองไปได้ไกลแค่ไหน
ขึ้นอยู่กับว่าคุณตระหนักว่าตัวเองต่ำต้อยมากแค่ไหน
เมื่อเทียบตัวตนในตอนนี้กับตัวตนในอุดมคติที่คิดไว้
- หน้า 35 -

การเติบโตหมายถึง
"ความกล้าหาญในการทิ้งตัวตนเดิมของเรา"
- หน้า 36 -

คนที่เติบโตไม่ใช่คนที่เลือกปีนบันไดได้ถูก
แต่คือคนที่กล้ากระโดดลงจากบันไดที่กำลังปีนอยู่โดยไม่ลังเล
เมื่อรู้ตัวว่าเลือกบันไดที่ผิด
- หน้า 37 -

ตั้งเป้าหมายให้สูงเข้าไว้
โดยไม่ต้องคำนึงถึงข้อจำกัดใด ๆ ทั้งสิ้น
- หน้า 44 -

ถ้าอยากใช้ชีวิตตามแบบที่ตัวเองพอใจได้อย่างสมเหตุสมผล
สิ่งที่จำเป็นคืออย่าให้สามัญสำนึกหรือมาตรฐานของคนอื่นและสังคม
มาทำให้ "หลัก" ของตัวเองสั่นคลอน
- หน้า 95 -

เรากำลังเข้าสู่ยุคสมัยของการแสวงหา
"คุณภาพและความสุนทรีย์"
ไม่ใช่ "จำนวนและปริมาณ"
- หน้า 98 -

การใช้เงินนั้นมี "วิธีใช้อย่างเก่งกาจ"
แต่ไม่มี "วิธีใช้อย่างถูกต้อง"
- หน้า 101 -

คนที่ดำเนินชีวิตอย่างพรั่งพร้อมบริบูรณ์จริง ๆ
ไม่ใช่คนที่มียอดเงินในบัญชีเงินฝากสูง ๆ
แต่คือคนที่มีกระแสเงินหมุนเวียนมาก
ซึ่งก็คือคนที่ใช้สิทธิที่ตัวเองมีอย่างเต็มที่ต่างหาก
- หน้า 102 -

ถ้าเราเปรียบว่าเงินเป็นเครื่องมือ
ก็แปลว่าเงินที่ไม่ได้ใช้นั้นไม่มีค่า
ดังนั้น ชีวิตของคุณจะพรั่งพร้อมบริบูรณ์ยิ่งขึ้นได้
ก็ต่อเมื่อคุณนำเงินที่เก็บสะสมไว้ตอนนี้มาลงทุนให้กับตัวเอง
- หน้า 103 -

ยิ่งเรายึดติดกับสิ่งต่าง ๆ น้อยลงเท่าไหร่
ก็จะยิ่งใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้นเท่านั้น
- หน้า 112 -

ผู้ที่ทำสิ่งที่คนอื่นไม่ทำ
ย่อมได้รับชัยชนะ
- หน้า 138 -

【รีวิว】13 Things Mentally Strong People Don't Do

หนังสือ "13 Things Mentally Strong People Don't Do"

ผู้เขียน : Amy Morin

         หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือแนวจิตวิทยา ซึ่งผู้เขียนได้รวบรวม 13 สิ่งซึ่งผู้ที่มีความแข็งแกร่งทางจิตใจจะไม่มีวันทำ  ผู้เขียนเริ่มต้นเรื่องราวในหนังสือเล่มนี้ด้วยประสบการณ์ชีวิตของตัวเอง ซึ่งสูญเสียทั้งแม่และสามี  การสูญเสียบุคคลผู้เป็นที่รักทั้งสองคน ทำให้ชีวิตของผู้เขียนไขว้เขวไปสักพัก  ผู้เขียนต้องใช้ความรู้จากอาชีพนักจิตบำบัดที่ตัวเองทำ มาบำบัดตัวเอง  จากเหตุการณ์เหล่านั้น ผนวกกับประสบการณ์การเป็นนักจิตบำบัด จึงได้เกิดเป็นหนังสือเล่มนี้ขึ้นมา

คำคมจากหนังสือ "13 Things Mentally Strong People Don't Do"

When we hate our enemies.
we are giving them power over us:
power over our sleep, our appetites,
our blood pressure, our heath, and our happiness.
- Dale Carnegie, หน้า 34 -

It's not that some people have willpower and some don't . . .
It's that some people are ready to change and others are not.
- James Gordon, หน้า 52 -

When you stop trying to control every aspect of your life,
you'll have more time and energy to devote to things you can control.
- หน้า 87 -

When you give up your desire to control everything,
you'll be more willing to look around
and you may recognize good fortune that comes your way
even if it isn't directly related to your behavior.
- หน้า 88 -

Care about what other people think
and you will always be their prisoner.
- Lao Tzu, หน้า 91 -

It's okay for other people to feel angry or disappointed.
- หน้า 101 -

Just because someone gets mad,
it doesn't necessarily mean you did anything wrong.
- หน้า 101 -

We do not heal the past by dwelling there;
we heal the past by living fully in the present.
- Marianne Williamson, หน้า 129 -

Comparing yourself to others is like comparing apples and oranges.
- หน้า 171 -

Everyone's path to success is different
and it's important to recognize that your journey is unique.
- หน้า 175 -

Patience, persistence and perspiration
make an unbeatable combination for success.
- Napoleon Hill, หน้า 230 -

【รีวิว】ชีวิตมั่งคั่งด้วยกระเป๋าสตางค์ใบเดียว

หนังสือ "ชีวิตมั่งคั่งด้วยกระเป๋าสตางค์ใบเดียว" (稼ぐ人はなぜ、長財布を使うのか?)

ผู้เขียน : คะเมะดะ จุนอิชิโร (亀田潤一郎)

         ใครจะไปคิดว่ากระเป๋าสตางค์ใบเดียวจะสามารถเปลี่ยนสถานะทางการเงินของเราได้!

         ในหนังสือเล่มนี้ ผู้เขียนได้บอกเล่าประสบการณ์การใช้ชีวิตคลุกคลีอยู่กับนักธุรกิจมากหน้าหลายตา  ในนักธุรกิจเหล่านั้น บางคนก็เป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ มีเงินทองมากมาย แต่บางคนเป็นนักธุรกิจที่ขาดทุน เก็บเงินไม่ค่อยอยู่  ทำไมกันนะ?

         ผู้เขียนลองสังเกตสิ่งที่นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จมีร่วมกัน นั่นก็คือ กระเป๋าสตางค์ของพวกเขาจะเป็นกระเป๋าสตางค์ทรงยาว  นอกจากนั้น พวกเขายังปฏิบัติกับเงินเหมือนกับเงินมีชีวิต!  เงินก็เหมือนคน  เงินชอบคนที่ดูแลเอาใจใส่เขา  ชอบคนที่รักเขา ไม่ปล่อยปละละเลย และไม่ขวนขวายเขาจนน่าอึดอัด

         หนังสือเล่มนี้ได้เปิดมุมมองของผมมากมาย  ความรู้สึกที่ผมมีต่อกระเป๋าสตางค์และความรู้สึกที่ผมมีต่อเงินได้เปลี่ยนไป  ถ้าผู้อ่านทุกท่านอ่านหนังสือเล่มนี้แล้วนำไปปฏิบัติ เงินในกระเป๋าสตางค์คุณคงมีความสุขน่าดู :)

คำคมจากหนังสือ "ชีวิตมั่งคั่งด้วยกระเป๋าสตางค์ใบเดียว"

การเคลื่อนไหวของเงินในมือ
คือรูปแบบการดำเนินชีวิตของตัวเราเอง
- หน้า 26 -

เวลาเปลี่ยนกระเป๋าสตางค์
คือเวลาที่คุณเปลี่ยนชีวิต
- หน้า 33 -

อยู่กับเงินก็เหมือนอยู่กับคน
- หน้า 50 -

จงคำนึงถึงวิธีใช้จ่ายที่เปลี่ยนเป็นการลงทุนให้ได้มากที่สุด
อย่าให้การบริโภคจบลงที่การบริโภคเท่านั้น
- หน้า 88 -

ยิ่งภาพในใจที่มีต่อความฝันหรือเป้าหมายสมจริงมากเท่าไหร่
สิ่งที่จะเกิดตามมาก็ยิ่งชัดเจนมากเท่านั้น
- หน้า 96 -

สิ่งสำคัญในการเก็บเงินคือการควบคุมรายจ่าย
แทนที่จะหาทางเพิ่มรายได้
- หน้า 101 -

ถ้ามนุษย์มีเป้าหมายหรือมีความหวัง
ไม่มีสิ่งใดที่ทำไม่ได้
- หน้า 135 -

ผมคิดว่าความหวังที่ดีคือ
ความหวังที่คุณเชื่อมั่นอย่างจริงจัง
แต่เล่าให้คนอื่นฟังแบบกึ่งตลก
และทำมันให้สำเร็จได้
- หน้า 136 -

เมื่อคุณเปลี่ยนการรับข้อมูล
การส่งข้อมูลก็จะเปลี่ยนตาม
การได้รับข้อมูลคุณภาพสูงจะช่วยยกระดับภาพลักษณ์ของตนเอง
- หน้า 142 -