วันพฤหัสบดีที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2564

【รีวิว】ขุนศึก ศักดินา และพญาอินทรี

หนังสือ "ขุนศึก ศักดินา และพญาอินทรี"
ผู้แต่ง : ณัฐพล ใจจริง
วันที่อ่าน : 26 พฤศจิกายน - 9 ธันวาคม 2564


         อ่านแล้วเข้าใจบริบทการเมืองไทยประมาณสมัย 2490-2500 ขึ้นมาก  หลายเรื่องเป็นเนื้อหาที่ไม่เคยได้อ่านในหนังสือเรียนประวัติศาสตร์ของกระทรวงศึกษา  นอกจากนั้น ผู้เขียนยังมีความสามารถในการถ่ายทอดเรื่องราวประวัติศาสตร์ให้เข้าใจง่าย เหมือนอ่านเรื่องเล่าไปเรื่อย ๆ ไม่เหมือนอ่านวิทยานิพนธ์  ถ้าใครอยากเข้าใจการเมืองไทยมากขึ้น แนะนำให้อ่านหนังสือเล่มนี้อย่างยิ่ง

         ป.ล. ชอบชื่อหนังสือสำนักพิมพ์นี้มาก ตั้งได้ความหมายลึกซึ้ง

วันพฤหัสบดีที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564

【รีวิว】リング (ริง คำสาปมรณะ)

หนังสือ『リング』(ริง คำสาปมรณะ)
ผู้เขียน : 鈴木光司 (ซูสุกิ โคจิ)
ผู้แปล : น้ำทิพย์ เมธเศรษฐ
วันที่อ่านจบ : 4 พฤศจิกายน 2564


         ผมเป็นคนที่ไม่ค่อยได้อ่านนิยายสยองขวัญ เพราะรู้สึกว่าดูเป็นหนังน่าจะน่ากลัวกว่า แต่เหมือนโชคชะตาทำให้ผมได้มาเจอหนังสือเล่มนี้ (บอกไว้ก่อนว่าผมอ่านทั้งฉบับภาษาญี่ปุ่นกับฉบับภาษาไทยพร้อมกัน)

         ริง คำสาปมรณะ เป็นนิยายอีกเรื่องหนึ่งที่ผมรู้สึกว่าสนุกมาก  ผู้เขียนสามารถทำให้ผู้อ่านสนุกตั้งแต่ต้นจนจบได้ โดยไม่มีบทไหนน่าเบื่อเลย  หลายคนพอเห็นนิยายเรื่องนี้คงคิดว่าเป็นนิยายผีจะต้องมีผีโผล่ออกมาหลอกบ่อย ๆ ตุ้งแช่! แต่จริง ๆ แล้วเชื่อไหมครับว่าไม่มีผีโผล่ออกมาเลยแม้แต่ครั้งเดียว!  แล้วเป็นนิยายสยองขวัญได้ยังไงเนี่ย?!  ถ้าอยากรู้ต้องไปอ่านเองครับ เดี๋ยวจะหาว่าสปอยล์

         นอกจากความสนุกแล้ว ผมยังรู้สึกว่านิยายเรื่องนี้แฝงแนวคิดอะไรหลาย ๆ อย่างไว้อย่างแยบยล  ตัวละครแต่ละตัวมีเบื้องลึกเบื้องหลังที่ทำให้เราอึ้งเมื่อค้นพบความจริงเกี่ยวกับตัวละครนั้น ๆ  เอาเป็นว่า ถ้าใครกำลังหานิยายสนุก ๆ ดี ๆ อ่านอยู่ล่ะก็ ผมแนะนำเล่มนี้ครับ

วันอังคารที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2564

【รีวิว】เพราะเป็นวัยรุ่นจึงเจ็บปวด

หนังสือ "เพราะเป็นวัยรุ่นจึงเจ็บปวด" (아프니까 청춘이다)
ผู้เขียน : คิมรันโด (김난도)
ผู้แปล : วิทิยา จันทร์พันธ์
วันที่อ่านจบ : 23 สิงหาคม 2564


         หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่บอกเล่าความเป็นวัยรุ่นได้ดี แม้ผู้เขียนจะเลยวัยรุ่นมาแล้วก็ตาม (ขอโทษครับ)  ตัวผมเองที่กำลังจะเรียนจบจากมหาวิทยาลัย ก็พบว่าหนังสือเล่มนี้ให้แง่คิดอะไรกับผมหลายอย่าง  แม้หนังสือเล่มนี้จะเขียนจากมุมมองในประเทศเกาหลี แต่ก็สามารถมาปรับใช้กับประเทศไทยได้ทุกเรื่อง เพราะวัยรุ่น ไม่ว่าจะอยู่ในประเทศไหน ก็มีความเจ็บปวดที่คล้ายกัน  มิหนำซ้ำ ผมว่าการอ่านหนังสือของคนในประเทศอื่นบ้าง กลับทำให้เราได้เห็นมุมมองใหม่ ๆ ที่ไม่เคยได้นึกถึงมาก่อน



วันจันทร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

【รีวิว】Paris Souvenir ด้วยรัก, จากปารีส

หนังสือ "Paris Souvenir ด้วยรัก, จากปารีส"
ผู้เขียน : โอ๊ต มณเฑียร
วันที่อ่าน : 1 - 19 กรกฎาคม 2564


         ผมเองเป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือบันทึกการเดินทางอยู่แล้ว  หนังสือเล่มนี้เขียนเกี่ยวกับการเดินทางไปฝรั่งเศสของคุณโอ๊ต  ผมเห็นที่ชั้นหนังสือในทีเคปาร์คปุ๊บก็เลยเลือกที่จะยืมมาอ่านทันที  คุณโอ๊ตผู้เขียนเล่าเรื่องได้สนุกสนานมาก มีสอดแทรกประวัติศาสตร์และความรู้ทางศิลปะอยู่ตลอดเล่ม ทำให้ผู้อ่านซึ่งมีความรู้ทางศิลปะอย่างน้อยนิดแบบผมได้ความรู้มากเลย  นอกจากเรื่องศิลปะแล้วก็มีเรื่องเพศ 18+ สอดแทรกอยู่เป็นระยะ ทำให้ผู้อื่นสะดุ้งตื่นได้55  ถ้าใครอยากได้ความรู้เรื่องศิลปะแบบเน้น ๆ บวกกับได้ประสบการณ์การเดินทางในฝรั่งเศสแบบจุก ๆ ลองอ่านหนังสือเล่มนี้ดูครับ

วันพฤหัสบดีที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

【รีวิว】อวตาร

หนังสือ "อวตาร"
ผู้เขียน : ฮิงาชิโนะ เคโงะ (東野圭吾)
ผู้แปล : ดนูรัตน์ ทุ่งบูรพา
วันที่อ่าน : 27 มิถุนายน - 1 กรกฎาคม 2564


         อวตาร เป็นผลงานของฮิงาชิโนะ เคโงะอีกเล่มหนึ่งที่ผมได้อ่าน  หนังสือเล่มนี้เล่นกับประเด็นการทำให้เด็กเกิดมาด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ ซึ่งในปัจจุบันบางวิธียังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ในทางจริยธรรม  นอกจากเรื่องเทคโนโลยีดังกล่าวแล้ว หนังสือเล่มนี้ยังบอกเล่าถึงจิตใจของเด็กที่เกิดมาด้วยเทคโนโลยีเหล่านั้นด้วย
         ผมชอบวิธีการเล่าเรื่องของผู้เขียนที่เริ่มจากตัวเอกสองตัวที่แยกจากการก่อน แล้วค่อย ๆ ดำเนินเรื่องจนมารวมกันในภายหลัง

วันพฤหัสบดีที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2564

【รีวิว】Foundation

หนังสือ "Foundation"
ผู้เขียน : Isaac Asimov
วันที่อ่าน : 3 มิถุนายน - 17 สิงหาคม 2564


         ในที่สุดก็อ่านจบ!  ผมอ่านหนังเล่มนี้มาหลายรอบแล้ว แต่อ่านเท่าไหร่ก็ไม่จบสักที จนเพิ่งมาอ่านจบเอาวันนี้แหละครับ!  ถามว่าสนุกไหม บอกเลยครับว่าสนุก แต่ไม่ได้ถึงกับสนุกทุกหน้า  มีบางช่วงที่เข้มข้นก็จะสนุกมาก ๆ แต่ก็มีบางช่วงที่อ่านแล้วงง ๆ ครับ55 (หรือภาษาอังกฤษเรายังไม่ดีพอ?)

         ผมมองว่าหนังสือเล่มนี้สอดแทรกแนวคิดเรื่องการเมืองการปกครอง รัฐศาสตร์ ประวัติศาสตร์ไว้เยอะมาก  หากอ่านดูอาจจะรู้สึกคุ้น ๆ เหมือนประวัติศาสตร์สมัยยุคกลางเลยครับ  ผมชอบการชิงไหวชิงพริบของตัวละครชนชั้นนำในเรื่องมาก  คิดว่าสามารถนำมาปรัขใช้กับสถานการณ์การเมืองในประเทศไทยปัจจุบันได้ด้วยครับ (อุ่ย)

คำคมจากหนังสือ "Foundation"


the rotten tree-trunk,
until the very moment when the storm-blast breaks it in two,
has all the appearance of might it ever had
- Hari Seldon, หน้า 36 -

Hardin once said:
'To succeed, planning alone is insufficient.
One must improvise as well.'
- Hober Mallow, หน้า 215 -

วันพฤหัสบดีที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

【รีวิว】สุดยอดการฟื้นฟูร่างกายวิถีสแตนฟอร์ด

หนังสือ "สุดยอดการฟื้นฟูร่างกายวิถีสแตนฟอร์ด" (The Stanford Method for Ultimate Super Recovery) 『スタンフォード式疲れない体』
ผู้เขียน : ยามาดะ โทโมโอะ (山田知生)
ผู้แปล : จิตรลดา มีเสมา
วันที่อ่าน : 17 กุมภาพันธ์ - 1 มีนาคม 2564


         หนังสือเล่มนี้ทำให้ผมได้รู้ว่า "ความเหนื่อย" เป็นสิ่งอันตรายมากกว่าที่คิด และได้รู้จักวิธีดูแลร่างกายไม่ให้เหนื่อย ซึ่งวิธีที่หนังสือเล่มนี้สอนนั้น ตั้งอยู่บนพื้นฐานของหลักการทางวิทยาศาสตร์การกีฬา ไม่ใช่วิธีมั่ว ๆ นะครับ! 55  นอกจากนั้น ผมยังได้รู้จักวิธีดูแลจิตใจไม่ให้เหนื่อยด้วย ซึ่งก็คือวิธีการคิดแบบเด็ก หรือทัศนคติแบบเติบโต (growth mindset) นั่นเอง

คำคมจากหนังสือ "สุดยอดการฟื้นฟูร่างกายวิถีสแตนฟอร์ด"


เมื่อเรามีบุคลิกภาพดี
ระบบประสาทส่วนกลางก็สั่งการไปยังอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายได้อย่างราบรื่น
- หน้า 60 -

คนเราจะประสบความสำเร็จหรือไม่นั้น
ขึ้นอยู่กับว่าเรารักษาทัศนคติแบบเติบโตที่เคยมีในตอนเด็กเอาไว้ได้หรือไม่
- หน้า 175 -