【รีวิว】เพียงชั่วเวลากาแฟยังอุ่น (コーヒーが冷めないうちに)

หนังสือ "เพียงชั่วเวลากาแฟยังอุ่น (コーヒーが冷めないうちに)"
ผู้เขียน : คาวางุจิ โทชิคาซึ (川口俊和)
ผู้แปล : ฉัตรขวัญ อดิศัย
วันที่อ่าน : 30 พ.ย. - 28 ธ.ค. 62

         หลังจากอ่าน "เพียงชั่วเวลากาแฟยังอุ่น" จบ ความอบอุ่นของหนังสือเล่มนี้ก็ยังอบอวลอยู่ในใจผม

         หนังสือเล่มนี้มีแกนเรื่องหลักอยู่ที่การเดินทางข้ามกาลเวลา แต่การเดินทางข้ามกาลเวลาที่ผู้เขียนนำเสนอในหนังสือเล่มนี้นั้นไม่เหมือนหนังสือเล่มไหนเลย เพราะมันไม่สามารถแก้ไขปัจจุบันได้

         "อ่าว แล้วจะย้อนเวลาเพื่อ?!!" หลายคนที่ยังอ่านหนังสือไม่จบคงคิดแบบนี้ แต่ผมรับประกันเลยว่าถ้าเพื่อน ๆ อ่านหนังสือเล่มนี้จบ เพื่อน ๆ จะมีมุมมองเกี่ยวกับจุดประสงค์ของการย้อนอดีตหรือข้ามไปอนาคตที่เปลี่ยนแปลงไป เพราะบางทีสิ่งที่ตัวละครหลักของเรื่องนี้ได้รับ อาจจะเป็นสิ่งที่มีค่ากว่าการแก้ไขปัจจุบันก็เป็นได้

         ท้ายที่สุดนี้ นี่อาจจะเป็นนิยายเล่มสุดท้ายของปี 2562  ผมก็ขอสวัสดีปีใหม่ล่วงหน้า และขออวยพรให้เพื่อน ๆ ทุกคนมีปัจจุบันที่มีความสุขนะครับ! :)

【รีวิว】ผู้อัญเชิญไฟ (献灯使)

หนังสือ "ผู้อัญเชิญไฟ (献灯使)"
ผู้เขียน : ทาวาดะ โยโกะ (多和田葉子)
ผู้แปล : มุทิตา พานิช
วันที่อ่าน : 29 พ.ย. - 4 ธ.ค. 62

         อ่านจบแล้ว ความรู้สึกแรกที่ผมรู้สึกคือ "งง" 555+  งงในที่นี้คืองงทั้งกับเนื้อเรื่องและงงกับตอนจบ

         ผมตัดสินใจอ่านหนังสือเล่มนี้เพราะมีรุ่นพี่ท่านหนึ่งเลือกหนังสือเล่มนี้มานำเสนอในคาบเรียน "นวนิยายญี่ปุ่นร่วมสมัย" ที่คณะอักษรฯ  ผมรู้สึกว่าเนื้อหาของหนังสือเล่มนี้ที่เกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่นในอนาคตนั้นน่าสนใจดี ซึ่งพออ่านจบแล้วก็รู้สึกชื่นชมในความคิดสร้างสรรค์ของผู้เขียนที่จินตนาการถึงอนาคตของประเทศญี่ปุ่นได้แปลกแหวกแนว แต่ในความแปลกก็มีความสมจริงนะครับ ไม่ได้เป็นไซไฟเว่อร์วังยิงกันปิ้ว ๆ  หากใครชอบแนวดิสโทเปีย อ่านเล่มนี้แล้วอาจจะชอบก็ได้นะ

         นอกเหนือจากความสร้างสรรค์แล้ว สิ่งที่ผู้เขียนให้เราก็คือความงง!!  พออ่านหนังสือเล่มนี้แล้ว ผมงงในการลำดับเนื้อเรื่องของผู้เขียนมากครับ เพราะตัวละครบางตัวอยู่ ๆ ก็โผล่มาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย  บางทีผู้เขียนก็สลับฉากไปมา  มิหนำซ้ำ ตอนจบของเรื่องก็จบแบบงง ๆ อีก แต่เพื่อน ๆ อาจจะอ่านแล้วไม่งงเหมือนผมก็ได้นะครับ55

คำคมจากหนังสือ "ผู้อัญเชิญไฟ"

ถึงเด็กตายไป ผู้ใหญ่ก็ยังมีชีวิตอยู่ได้
แต่ถ้าผู้ใหญ่ตาย เด็กอยู่ไม่ได้นะครับ
- มุเมอิ, หน้า 43 -

โยชิโรอยากให้มุเมอิมีโอกาสเห็นแมลงปอสักครั้งก็ยังดี
- หน้า 119 -

【รีวิว】個人的な体験 (รอยชีวิต)

หนังสือ『個人的な体験』(รอยชีวิต)
ผู้เขียน : 大江健三郎 (โอเอะ เค็นซาบูโร)
ผู้แปล : เดือนเต็ม กฤษดาธานนท์
วันที่อ่าน : 11 ต.ค. 62 - 21 ต.ค. 62

คำคมจากหนังสือ "個人的な体験 (รอยชีวิต)"

เขารู้สึกเหมือนว่าตนได้หนีรอดมาจากวงล้อมของคนแปลกหน้า
และกลับคืนสู่ครอบครัวที่แท้จริงของตน
- หน้า 175 -

เบิร์ดคิดถึงลูกชายและตัดสินได้ว่าทารกนั้นยังไม่สามารถกลัวได้
เบิร์ดจึงรู้สึกโล่งอก
แต่เป็นความโล่งอกที่น่าสงสัยและเปราะบาง
- หน้า 270 -

ผมรู้สึกว่าเบิร์ดตอนอายุยี่สิบ ไม่เคยท้อใจแบบนี้เลยนี่นา
ยังกับว่ามีบางสิ่งบางอย่างที่ทำให้คุณกลัวมาก ๆ
และคุณพยายามวิ่งหนีมันอยู่
- คิคุฮิโกะ, หน้า 272 -

จากทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันได้เคยครอบครองเมื่อตอนอายุยี่สิบปีนี้
มีแค่สิ่งเดียวที่ฉันไม่สูญเสียไปก็คือชื่อเล่นตอนเด็ก ๆ
- เบิร์ด, หน้า 272 -

ทุกอย่างที่ผมอยากทำก็คือ
เลิกเป็นผู้ชายที่เอาแต่วิ่งหนีและหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบ
- เบิร์ด, หน้า 275 -

【รีวิว】บุพเพสันนิวาส

หนังสือ “บุพเพสันนิวาส”
ผู้เขียน : รอมแพง

         ละครจบมาตั้งปีหนึ่งแล้ว ผมเพิ่งได้อ่านนวนิยายเรื่องนี้...

         บุพเพสันนิวาสเป็นหนังสือที่สนุกตั้งแต่ต้นจนจบเลย  ไม่มีหน้าไหนที่น่าเบื่อจนอยากเปิดผ่าน ๆ เลย  ในทางกลับกัน ก็ไม่มีบทไหนที่ตื่นเต้นเป็นพิเศษเช่นกัน  เป็นความสนุกแบบเรื่อย ๆ ตั้งแต่ต้นจนจบ

         สิ่งที่ผมชอบที่สุดในหนังสือเล่มนี้มีอยู่สองอย่าง คือ หนึ่ง ผู้เขียนเก็บรายละเอียดดีมาก  บทบรรยายในเรื่องทำให้ผู้อ่านเห็นถึงความใส่ใจในรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ของผู้เขียน  คุณรอมแพงทำให้ผู้อ่านหลุดเข้าไปในสมัยสมเด็จพระนารายณ์ได้จริง ๆ  สอง ผู้เขียนเน้นประเด็นที่ว่าไม่มีตัวละครใดเป็นคนดีหรือคนร้ายร้อยเปอร์เซ็นต์  ทุกตัวละครมีความเป็นสีเทา ซึ่งก็สอดคล้องกับความจริงในโลกมนุษย์

         หนังสือเล่มนี้เป็นนิยายไทยไม่มีเล่มที่ผมอ่าน  ขอบคุณผู้เขียนมากที่สร้างโลกในจินตนาการใบใหม่ให้ผมครับ

【รีวิว】มัทนะพาธา

หนังสือ "มัทนะพาธา"

พระราชนิพนธ์ใน พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว

         มัทนะพาธา เป็นบทพระราชนิพนธ์ที่ผมเฝ้ารอมากในวิชา THAI LIT ของคณะอักษรศาสตร์  ไม่ใช่เพราะเนื้อเรื่องหรืออะไรทั้งสิ้น แต่เป็นเพราะอาจารย์ผู้สอนครับ555+  ผมอยากเรียนกับอ.ใกล้รุ่ง ตั้งแต่ก่อนสอบติดคณะนี้เสียอีก  พอได้เรียนเข้าจริง ๆ ก็ดีสมคำร่ำลือ อิอิ

         เข้าเรื่อง ๆ  มัทนะพาธา แปลว่า ความเจ็บปวดจากความรัก  บทพระราชนิพนธ์เล่มนี้จัดเป็นหนังสือที่ดีเยี่ยม เพราะ เนื้อเรื่องมีความเป็นเอกภาพ คือ ทุกตัวละครล้วนเจ็บปวดจากความรักเหมือนชื่อเรื่องเลย  ต่อจากนี้จะสปอยล์นะ  มัทนาก็เจ็บปวดจากการรักชัยเสน  ชัยเสนเองก็เจ็บปวดจากการรักมัทนา  แม้กระทั่ง ศุภางค์ นายทหารผู้จงรักภักดี ก็เจ็บปวดต่อการรักชาติบ้านเมือง  นี่แหละคือคอนเซ็ปต์ของเรื่องนี้  นอกจากเรื่องที่เป็นเอกภาพแล้ว  บทเจรจาในเรื่องก็คมคายมาก ๆ เลย  มาดูตัวอย่างกันดีกว่า

         สุเทษณ์.  ความรักละเหี่ยอุระระทด  เพราะมิอาจจะคลอเคลีย.
         มัทนา.     ความรักระทดอุระละเหี่ย  ฤจะหายเพราะเคลียคลอ?

         คมปะล่ะ  เพื่อน ๆ บอกงง อ่านไม่รู้เรื่อง555  ไม่เป็นไร ๆ  เอาเป็นว่า หนังสือเล่มนี้อ่านแล้วสนุกจริง ๆ นะ  อ่านง่ายกว่าวรรณคดีบางเรื่องเยอะ  ถ้าใครอยากอ่านเรื่องราวที่ถูกประพันธ์มาอย่างงดงามเหมือนดอกกุหลาบแล้วล่ะก็ อ่านเรื่องนี้เลย แนะนำ

【รีวิว】เงาะป่า

หนังสือ "เงาะป่า"

พระราชนิพนธ์ใน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

         ผมได้อ่านหนังสือเล่มนี้อย่างละเอียดเพราะวิชา THAI LIT ของคณะอักษรศาสตร์...

         ไม่ขอเล่าเรื่องย่อละกัน เพราะเพื่อน ๆ น่าจะหาได้ในอินเทอร์เน็ตอยู่แล้ว  วันนี้ผมจะมาเล่าความรู้สึกหลังอ่านจบดีกว่า...

         ผมรู้สึกว่าพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระราชประสงค์ให้ผู้อ่านหนังสือเล่มนี้ตระหนักว่าชาวเงาะที่ใคร ๆ มองว่าป่าเถื่อน ล้าหลัง มีอารยธรรมที่ด้อยกว่านั้น แท้จริงแล้วมิได้ด้อยกว่าเลย  ชาวเงาะเองก็มีวัฒนธรรม มีอารยธรรมของตน และที่สำคัญคือ ชาวเงาะเหล่านี้รักผู้อื่นเป็น และมีความซื่อสัตย์ในความรัก  ดังบทพระราชนิพนธ์ในหน้าสุดท้ายของหนังสือเล่มนี้

                  จบ   บทประดิษฐ์แกล้ง         กล่าวกลอน
                  เรื่อง หลากเล่นละคร            ก็ได้
                  เงาะ ก็อยเกิดในดอน            แดนพัท ลุงแฮ
                  ป่า    เป็นเรือนยากไร้         ย่อมรู้รักเป็น

【รีวิว】ผู้ชายสะบัด ผู้หญิงเช็ด

หนังสือ "ผู้ชายสะบัด ผู้หญิงเช็ด" (남자는 털고, 여자는 닦고)

ผู้เขียน : ชิมบงซ็อก (심봉석)

ผู้แปล : อภิศรี นิรุตติปัญญากุล

         ช่วงนี้ผมหันมาอ่านหนังสือสุขภาพ... (เดี๋ยวจะมีอีกหลายเล่มตามมา เร็ว ๆ นี้)

         ผู้ชายสะบัด ผู้หญิงเช็ด เล่มนี้ เป็นหนังสือเกี่ยวกับสุขภาพของระบบทางเดินปัสสาวะและระบบสืบพันธุ์ ซึ่งเป็นระบบที่สำคัญต่อร่างกายอย่างยิ่ง แต่หลายต่อหลายคนกลับละเลยการดูแลสองระบบนี้  มิหนำซ้ำ บางคนยังไม่กล้าไปพบแพทย์เมื่อมีปัญหาในสองระบบนี้ด้วย

         ผู้เขียนเขียนหนังสือเล่มนี้ให้ผู้อ่านเข้าใจง่าย  ผมจึงไม่รู้สึกเบื่อเลย  ความรู้ที่ผมได้รับจากหนังสือเล่มนี้ล้วนเป็นเรื่องแปลกใหม่ หลายเรื่องถึงกับทำให้ผมตกใจว่า "อย่างงี้ก็มีด้วยหรอ?!"

         เพื่อน ๆ ที่อ่านบล็อกของผมอยู่ก็อย่าลืมดูแลสุขภาพร่างกายด้วยนะครับ  ขอให้เพื่อน ๆ ทุกคนมีสุขภาพแข็งแรงครับ

【รีวิว】Me Before You

หนังสือ “Me Before You”
ผู้เขียน : Jojo Moyes

         ปกติผมเป็นคนที่อ่านนวนิยายแนวแฟนตาซีหรือไซไฟมาโดยตลอด  ผมแทบไม่เคยแตะนิยายรัก หรือนิยายชีวิตดราม่าน้ำตาตก  Me Before You เป็นนวนิยายแนวชีวิตจริงเล่มแรก ๆ ที่ผมอ่าน  แล้วหนังสือเล่มนี้ก็ทำให้ผมหลงรักนวนิยายแนวนี้ไปเลย

         หนังสือเล่มนี้ค่อนข้างหนา แต่ความหนาของมันไม่เคยทำให้ผมเบื่อ  ทุก ๆ หน้าเต็มไปด้วยเรื่องราวที่ประกอบกันเป็นช่วงหนึ่งของชีวิตผู้หญิงคนหนึ่งที่ต้องมาดูแลผู้ป่วย  ความสัมพันธ์ของทั้งสองที่พัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ สวนทางกับเวลาที่ทั้งสองจะได้อยู่ด้วยกัน ซึ่งสั้นลงเรื่อย ๆ ทำให้ความในใจที่ทั้งสองมีให้แก่กันได้ถูกเปิดเผยออกมา  หนังสือเล่มนี้ทำให้ผมรู้สึกเหมือนกับอ่านชีวิตของคน ๆ หนึ่ง  มันสมจริงเสียจนผมนึกว่าเรื่องราวเหล่านี้เกิดขึ้นจริง  ถ้าเพื่อน ๆ คนไหนอยากสัมผัสนวนิยายรักที่ไม่ได้มีแค่เรื่องรักแล้วล่ะก็ ลองอ่านหนังสือเล่มนี้ดูสิครับ

คำคมจากหนังสือ "Me Before You"

I worked out what would make me happy,
and I worked out what I wanted to do,
and I trained myself to do the job that would make those two things happen.
- Will Traynor, หน้า 264 -

I will never, ever regret the things I've done.
Because most days, if you're stuck in one of these,
all you have are the places in your memory that you can go to.
- Will Traynor, หน้า 265 -

【รีวิว】ตรวจภายใน

หนังสือ “ตรวจภายใน”
ผู้เขียน : นิ้วกลม

         ผมรู้จักหนังสือเล่มนี้เพราะคณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ...

         อาจารย์ได้เลือกบทความ "วัฒนธรรมรูปด้าน" มาให้เป็นบทอ่านในคาบการใช้ภาษาไทย  ทำให้ผมรู้สึกถูกใจแนวคิดของคุณนิ้วกลมในเรื่องเกี่ยวกับโซเชียลมีเดีย

         หนังสือ "ตรวจภายใน" เล่มนี้ พูดถึงโซเชียลมีเดียเป็นประเด็นหลัก  ในปัจจุบัน โซเชียลมีเดียกลายเป็นส่วนหนึ่ง (ที่สำคัญ) ของชีวิตประจำวันโดยที่เราไม่รู้ตัว  โซเชียลมีเดียได้เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของพวกเราไปอย่างรวดเร็วพอ ๆ กับสัญญาณอินเทอร์เน็ต 5G  พฤติกรรมบางอย่างที่ปรากฏขึ้นมาอย่างหาสาเหตุไม่ได้นั้น แท้จริงแล้วมีที่มามาจากโซเชียลมีเดียนี่เอง

         หนังสือเล่มนี้ทำให้ผมมองโลก (ทั้งโลกโซเชียลและโลกจริง ๆ) ในมุมมองที่ลึกซึ้งขึ้น  หากทุกคนในสังคม มองสิ่งต่าง ๆ รอบตัวอย่างลึกซึ้งขึ้น สังคมก็คงจะดีขึ้นไม่น้อย

【รีวิว】Lagom: Not Too Little, Not Too Much: The Swedish Art of Living a Balanced, Happy Life

หนังสือ “Lagom: Not Too Little, Not Too Much: The Swedish Art of Living a Balanced, Happy Life”
ผู้เขียน : Niki Brantmark

         ลากอม (Lagom) คือวิถีชีวิตแบบสวีเดนที่ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ "กำลังดี"  ใช้ชีวิตไม่เร่งรีบมากเกินไป  ไม่รับประทานอาหารมากเกินไป  ไม่ใช้เงินมากเกินไป  ทั้งหมดนี้คือลากอม

         หนังสือเล่มนี้จะทำให้ผู้อ่านรู้จักวิถีชีวิตแบบลากอมมากขึ้นผ่านตัวอย่างการใช้ชีวิตในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น การปฏิสัมพันธ์กับครอบครัว การรับประทานอาหาร หรือการใช้เงิน  ด้วยภาพประกอบสีสันสวยงาม ทำให้ผมอยากอ่านหนังสือเล่มนี้มากขึ้น  นอกจากนั้น ผู้เขียนยังแทรกคำศัพท์ภาษาสวีเดนที่ใช้เรียกสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันไว้ ทำให้ผมรู้สึกเข้าใจความเป็นสวีเดนมากขึ้น

คำคมจากหนังสือ "Lagom: Not Too Little, Not Too Much: The Swedish Art of Living a Balanced, Happy Life"

Sometimes a single modest bloom can say more than an entire bouquet.
- Ilkka Suppanen, หน้า 33 -

One cannot think well, love well, sleep well,
if one has not dined well.
- Virgina Woolf, หน้า 103 -

When you talk, you are only repeating what you already know.
But if you listen, you may learn something new.
- Dalai Lama, หน้า 122 -

Do small things with great love.
It's not how much we do,
but how much love we put in doing.
- Mother Teresa, หน้า 213 -

【รีวิว】Wander Boy หนทางยังเยาว์วัย

หนังสือ “Wander Boy หนทางยังเยาว์วัย”
ผู้เขียน : ทีปกร วุฒิพิทยามงคล

         ผมเป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือสารคดีท่องเที่ยว (แบบที่ไม่ใช่ไกด์บุ๊ก...)  หนังสือ Wander Boy เล่มนี้ ก็เป็นอีกเล่มที่มีสไตล์การเล่าเรื่องที่ผมชอบ

         ผู้เขียนพาเราไปเที่ยวประเทศในแถบที่เราไม่เคยสนใจมาก่อน  ไม่ว่าจะเป็นเดนมาร์ก เนเธอร์แลนด์ หรือเมืองบางเมืองในเยอรมนีที่เราไม่รู้จัก  หนังสือเล่มนี้ทำให้ผมรู้จักสถานที่เหล่านี้มากขึ้น  ด้วยสำนวนการเขียนแบบเล่าเรื่อง ทำให้ผมรู้สึกราวกับว่าได้ไปนั่งรถเที่ยวกับผู้เขียนด้วย  การหนังสือเล่มนี้เล่มเดียวก็เหมือนได้เที่ยวยุโรป  คุ้มมากกก

         นอกจากเรื่องเที่ยวแล้ว ผู้เขียนยังแทรกเกร็ดความรู้เกี่ยวกับผู้คนในประเทศต่าง ๆ ไว้ด้วย  ทำให้เราเข้าใจวิถีชีวิตและแนวคิดของคนประเทศนั้น ๆ  ถ้าใครอยากเข้าใจคนยุโรป (ในประเทศเหล่านี้) มากขึ้น ลองอ่านดูครับ

คำคมจากหนังสือ "Wander Boy หนทางยังเยาว์วัย"

วิทยาศาสตร์นั้นส่งเสริมศิลปะทั้งการสร้างและการชม
ศิลปะก็ส่งเสริมวิทยาศาสตร์เช่นกัน
เมื่อไม่แบ่งเป็นสอง
เราก็จะเห็นการสอดรับประสานสัมพันธ์อันงดงาม
- หน้า 191 -

วิธีที่อาจทำให้เราใช้ชีวิตอย่างมีชีวิต
คงเป็นการรู้จักสังเกตสภาวะรอบตัว
ใบไม้ที่ผลัดใบ
สายน้ำที่หลั่งไหล
กระทั่งอากาศที่ร้อนขึ้นหรือเย็นลงเล็กน้อย
การเปลี่ยนแปลงนี้เองที่ทำให้มนุษย์เป็นมนุษย์
- หน้า 196 -

【รีวิว】บาร์เซโลนากว้างมาก

หนังสือ “บาร์เซโลนากว้างมาก”
ผู้เขียน : Little Thoughts

         บาร์เซโลนากว้างมาก เป็นหนังสือสารคดีเกี่ยวกับประเทศสเปนเล่มแรกที่ผมอ่าน...

         หลังจากอ่านแต่หนังสือซึ่งเกี่ยวกับประเทศเกาหลีอยู่นาน (เพราะเป็นติ่ง555)  ผมก็มีความรู้สึกว่า..อยากรู้เรื่องราวเกี่ยวกับประเทศอื่น ๆ บ้างจัง..  และแล้ว หนังสือเล่มนี้ก็มาอยู่ในมือผม..

         หนังสือเล่มนี้ไม่ใช่บันทึกการเดินทาง  ผมขอเรียกหนังสือประเภทนี้ว่า "หนังสือสารคดี" แล้วกัน  หนังสือเล่มนี้ทำให้ระดับความรู้เกี่ยวกับประเทศสเปนที่ผมมีนั้นเพิ่มขึ้นเป็นกอง  จากที่ผมรู้จักแค่ประเพณีวิ่งควาย (เค้าเรียกอย่างงี้หรอ?) ตอนนี้ผมรู้จักแคว้นกาตาลุญญา รู้จักเมืองบาร์เซโลนา รู้จักสถาปนิกชื่อดังชาวสเปนมากมาย  นอกจากความรู้ประดับสมองแล้ว หนังสือเล่มนี้ยังเปิดมุมมอง ทำให้ผมมองโลกกว้างขึ้น  ผู้เขียนได้สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในประเทศสเปน ทำให้ผมตระหนักว่าทุกประเทศก็มีปัญหาเหมือนกัน ไม่ต่างจากประเทศของเรา (แล้วก็เป็นปัญหาคล้าย ๆ กันด้วย55)

         ถ้าเพื่อน ๆ นักอ่านคนไหนอยากรู้จักเมืองบาร์เซโลนามากขึ้น  อยากรู้จักเมืองแห่งนี้ในมุมมองอื่นที่ไม่ใช่เรื่องเที่ยว  ลองอ่านหนังสือเล่มนี้ดูนะครับ

【รีวิว】Warcross

หนังสือ “Warcross”
นวนิยายชุด Warcross เล่ม 1
ผู้เขียน : Marie Lu

         หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือนอกเวลาของวิชาภาษาอังกฤษที่คณะผม  ตอนแรกที่ผมรู้ว่าจะต้องอ่านหนังสือเล่มนี้ ผมเองก็ไม่ได้คาดหวังว่ามันจะสนุกเหมือนคำโปรยที่เขียนไว้บนปกว่า #1 New York Times Best Selling Author  แต่ผลปรากฏว่าสนุกเกินคาดครับ!

         นวนิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องราวในอนาคต (ไม่ไกลมาก สัก 10 ปีจากปัจจุบัน)  ในยุคนั้น มนุษย์เกือบทั้งหมดเล่มเกมที่ชื่อว่า "Warcross"  เกมวอร์ครอสนี้ไม่ได้เป็นแค่เกมออนไลน์ แต่เป็นเสมือนวิถีชีวิตของผู้คนบนโลก  เรียกได้ว่า ถ้าใครไม่เล่มเกมนี้ก็เอ๊าต์มากกกก  นางเอกของเรื่องก็เป็นคนที่เล่มเกมนี้เหมือนกัน แต่ไม่ได้เล่นธรรมดา เธอสามารถแฮ็๋กระบบของเกมนี้ได้ โอ้ว คุณพระ อะไรจะเก่งเบอร์นั้น  ความสามารถในการแฮ็กเกมที่เธอมีนี่แหละจะทำให้เธอได้พบกับพระเอก (?) ของเรื่อง  ไม่อยากพูดมากกว่านี้ละครับ เดี๋ยวจะหาว่าสปอยล์  เอาเป็นว่า ถ้าเพื่อน ๆ คนไหนชอบหนังสือแนวไซไฟ แต่ไม่ไซไฟจ๋า มีฉากรักหน่อย ๆ (หน่อยหรอ?) อ่านเล่มนี้รับรองว่าไม่ผิดหวังคร้าบ

คำคมจากหนังสือ "Warcross"

I like to keep my home real.
It's too easy to lose yourself in an illusion.
- Hideo Tanaka, หน้า 243 -

【รีวิว】ชีวิตดีขึ้นทุก ๆ ด้านด้วยการจัดบ้านแค่ครั้งเดียว 2

หนังสือ "ชีวิตดีขึ้นทุก ๆ ด้านด้วยการจัดบ้านแค่ครั้งเดียว 2" (人生がときめく片づけの魔法２)

ผู้เขียน : คนโด มาริเอะ (近藤麻理恵)

         หลังจากอ่าน ชีวิตดีขึ้นทุก ๆ ด้านด้วยการจัดบ้านแค่ครั้งเดียว เล่มแรกจบ ผมก็เป็นแฟนคลับตัวยงของวิธีการจัดบ้านแบบ "คมมาริ" เรื่อยมา

         ในเล่มที่ 2 นี้ ผู้เขียนได้ลงลึกในรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีการจัดบ้านที่กล่าวไว้ในเล่มที่ 1 มากขึ้น ทั้งสาเหตุที่ทำไมลงมือจัดบ้านไปได้ไม่เท่าไหร่ก็ถอดใจ ทำไมตั้งใจจะทิ้งข้าวของแต่กลับทิ้งไม่ลง ฯลฯ

         หากเพื่อน ๆ คนไหนอ่านเล่ม 1 แล้ว ไม่จำเป็นต้องอ่านเล่มนี้ก็ได้ แต่การอ่านหนังสือเล่มนี้จะทำให้เพื่อน ๆ เข้าใจเจตนารมณ์ของวิธีการจัดบ้านแบบคมมาริมากขึ้น  เข้าใจแก่นแท้ของการจัดบ้านแบบนี้มากขึ้น

         ท้ายที่สุดนี้ ผมอยากขอขอบคุณผู้เขียนที่เป็นแรงบันดาลใจให้ผมจัดบ้านจนบ้านของผมมีระเบียบขึ้นมากเลยครับ  ありがとうございます！

คำคมจากหนังสือ "ชีวิตดีขึ้นทุก ๆ ด้าน ด้วยการจัดบ้านแค่ครั้งเดียว 2"

การให้ความสำคัญกับเรื่องทั่วไปในชีวิตประจำวันนี่แหละ
ที่ทำให้เราดำเนินชีวิตอย่างมีความสุขทุกวัน
- หน้า 287 -